นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วุฒิสภา เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากมีมติแก้ไขถ้อยคำในร่าง พ.ร.บ.บางมาตรา ได้แก่ มาตรา 3 ว่าด้วยคำนิยาม ซึ่งคณะกรรมาธิการได้แก้ไขด้วยการเพิ่มเติมคำว่า "โครงการ" เข้าไป โดยให้หมายถึงโครงการตามแผนงานยุทธศาสตร์ที่ปรากฏในเอกสารประกอบการพิจารณาในพระราชบัญญัตินี้ที่ได้นำเสนอต่อรัฐสภา
จากนั้น ได้แก้ไขมาตรา 6 วรรคหนึ่ง โดยให้มีถ้อยคำดังนี้ "เงินที่ได้จากการกู้ให้นำไปไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการกู้ โดยต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง" จากเดิมในร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร ได้บัญญัติว่า เงินกู้ตามกฎหมายนี้ไม่ต้องส่งเข้าคลังตามวิธีการงบประมาณ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การแก้ไขในมาตรา 6 จะมีผลให้เงินที่รัฐบาลกู้มาเป็นเงินแผ่นดิน เท่ากับว่าการจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ได้ตามแผนยุทธศาสตร์รัฐบาลจะต้องตรากฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 กำหนดก่อนเท่านั้น ขณะที่ขั้นตอนคณะกรรมาธิการต่อจากนี้ จะเชิญ ส.ว.ผู้เสนอคำแปรญัตติแก้ไขถ้อยคำมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ในวันที่ 30 ตุลาคม ต่อไป
จากนั้น ได้แก้ไขมาตรา 6 วรรคหนึ่ง โดยให้มีถ้อยคำดังนี้ "เงินที่ได้จากการกู้ให้นำไปไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการกู้ โดยต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง" จากเดิมในร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร ได้บัญญัติว่า เงินกู้ตามกฎหมายนี้ไม่ต้องส่งเข้าคลังตามวิธีการงบประมาณ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การแก้ไขในมาตรา 6 จะมีผลให้เงินที่รัฐบาลกู้มาเป็นเงินแผ่นดิน เท่ากับว่าการจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ได้ตามแผนยุทธศาสตร์รัฐบาลจะต้องตรากฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 กำหนดก่อนเท่านั้น ขณะที่ขั้นตอนคณะกรรมาธิการต่อจากนี้ จะเชิญ ส.ว.ผู้เสนอคำแปรญัตติแก้ไขถ้อยคำมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ในวันที่ 30 ตุลาคม ต่อไป