นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยถึงการพูดคุยสันติภาพ ว่า จากการที่ได้พบปะพี่น้องประชาชน ภาคประชาชน และคนทั่วไปในพื้นที่ ทั้งนักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ ยังสนับสนุนให้มีการพูดคุยกันต่อไป ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น การพูดคุยยังเป็นหนทางหนึ่งที่จะนำไปสู่สันติสุขและสันติภาพเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานาน โดยส่วนตัวที่อยู่ในกระบวนการของการพูดคุย ก็ยังมีความเห็นว่า การพูดคุยจะต้องดำเนินการต่อไปเพียงแต่ในช่วงระยะเวลานี้ อาจมีความล่าช้าไปบ้าง อาจจะต้องเลื่อนการพูดคุยไปก่อน เนื่องจากมีเหตุปัจจัยหลายอย่างมาเป็นองค์ประกอบ โดยเฉพาะข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ของผู้มีความเห็นต่าง ซึ่งความจริงข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาคือเราจะพูดคุยและเราจะมีทางที่จะทำความตกลงกันได้หรือไม่ ฝ่ายรัฐจะแก้ปัญหาอย่างไร ฝ่ายมีความเห็นต่างจะมีส่วนที่จะแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ประชาชนได้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ศูนย์รวมทางธุรกิจทั้งหลายจะได้ไม่มีการกระทบกระเทือน ยางก็ค่อนข้างตกต่ำ เศรษฐกิจในภาพรวมก็ตกต่ำ ไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น ทั้งภาคใต้เศรษฐกิจก็ตกต่ำอยู่ นี่คือปัจจัยหลักที่ควรจะต้องพิจารณา
สำหรับข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ มีหลายประเด็นในรายละเอียดที่ผู้เห็นต่างได้เสนอมา ซึ่งส่วนหนึ่งเราได้ดำเนินการไปแล้ว ส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เราควรจะต้องไปนั่งโต๊ะพูดคุยกัน เราเตรียมการของเราว่าข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ มีส่วนใดบ้างที่รับได้และส่วนใดที่รับไม่ได้ เราก็สามารถพูดคุยกันได้ แต่เราควรจะพูดคุยกับกลุ่มของเราก่อน เมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจาก็พยายามชี้แจงกันด้วยเหตุผล สิ่งที่น่ายินดี คือ ผู้เห็นต่างเองก็เปิดช่องทางให้เราว่า ไม่จำเป็นที่เราจะต้องรับข้อเสนอทั้งหมด ข้อไหนทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ และรอเวลาที่เหมาะสมก็มาพูดคุยกันต่อไปได้
ทั้งนี้ ตนเองอยากให้การพูดคุยดำเนินการไปให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้ามากเท่าไรก็จะยิ่งสูญเสียมากเท่านั้น ทั้งทรัพยากรบุคคล ทรัพย์สิน ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนที่มีต่อรัฐ จึงอยากฝากผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงช่วยพิจารณาพูดคุยให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้อาจจะเดือนละ 2-3 ครั้ง
สำหรับข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ มีหลายประเด็นในรายละเอียดที่ผู้เห็นต่างได้เสนอมา ซึ่งส่วนหนึ่งเราได้ดำเนินการไปแล้ว ส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เราควรจะต้องไปนั่งโต๊ะพูดคุยกัน เราเตรียมการของเราว่าข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ มีส่วนใดบ้างที่รับได้และส่วนใดที่รับไม่ได้ เราก็สามารถพูดคุยกันได้ แต่เราควรจะพูดคุยกับกลุ่มของเราก่อน เมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจาก็พยายามชี้แจงกันด้วยเหตุผล สิ่งที่น่ายินดี คือ ผู้เห็นต่างเองก็เปิดช่องทางให้เราว่า ไม่จำเป็นที่เราจะต้องรับข้อเสนอทั้งหมด ข้อไหนทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ และรอเวลาที่เหมาะสมก็มาพูดคุยกันต่อไปได้
ทั้งนี้ ตนเองอยากให้การพูดคุยดำเนินการไปให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้ามากเท่าไรก็จะยิ่งสูญเสียมากเท่านั้น ทั้งทรัพยากรบุคคล ทรัพย์สิน ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนที่มีต่อรัฐ จึงอยากฝากผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงช่วยพิจารณาพูดคุยให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้อาจจะเดือนละ 2-3 ครั้ง
