การประชุมคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมี นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการสรรหา ลงคะแนนเลือก กกต.แบบเปิดเผย โดยผู้ที่ได้รับเลือกต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมด ผลปรากฏว่า คณะกรรมการสรรหาฯ เลือก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ข้าราชการบำนาญ สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) นายบุญส่ง น้อยโสภณ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ภาค 7 และนายประวิช รัตนเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาต้องเลือกถึง 12 รอบ นายสมชัย ได้รับเลือกจากรอบที่ 4 นายบุญส่ง ได้รับเลือกในรอบที่ 5 ส่วนนายประวิช ได้รับเลือกในรอบที่ 12 หลังจากผลคะแนนของนายประวิช ได้เท่ากับ นายคมสันต์ โพธิ์คง อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญถึง 5 รอบ
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี นายนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานเช่นกัน ได้ใช้เวลาลงคะแนนเพียงรอบเดียว เลือก นายณรงค์ รัฐอมฤต อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการ ป.ป.ช.แทน นายกล้านรงค์ จันทิก ที่พ้นวาระ
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการสรรหา จะนำรายชื่อทั้งหมด ส่งให้ประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี นายนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานเช่นกัน ได้ใช้เวลาลงคะแนนเพียงรอบเดียว เลือก นายณรงค์ รัฐอมฤต อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นกรรมการ ป.ป.ช.แทน นายกล้านรงค์ จันทิก ที่พ้นวาระ
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการสรรหา จะนำรายชื่อทั้งหมด ส่งให้ประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป