นายภาณุพงศ์ นิธิประภา คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานสัมมนาเรื่องท้วงติง 2 ปี นโยบายเศรษฐกิจยิ่งลักษณ์ ความฝันกับความจริงว่า เศรษฐกิจไทย ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำให้การส่งออกชะลอตัวลงหากรัฐบาลยังไม่สามารถกระตุ้นการลงทุน และการบริโภคภายในประเทศเพื่อชดเชยการส่งออก โอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยในปีนี้โตได้ร้อยละ 14 คงเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชน กระตุ้นการจับจ่ายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลยังสามารถก่อหนี้สาธารณะ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะปัจจุบันระดับหนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ระดับร้อยละ 40-45 ของจีดีพี ยังไม่ถึงร้อยละ 60 ตามกรอบวินัยการคลัง ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ ส่วนโครงการรับจำนำข้าวถือเป็นอีก 1 โครงการ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะรายได้ที่เกษตรกรได้รับจะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แตกต่างจากโครงการรถยนต์คันแรก ที่ผู้ซื้อส่วนใหญเป็นชนชั้นกลางจะประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจำนำข้าวทำให้กลไกตลาดบิดเบือน ซึ่งเชื่อว่าท้ายรัฐบาลจะต้องปรับลดราคารับจำนำข้าวลง ส่วนแนวคิดที่จะนำเงินทุนสำรองประเทศตั้งเป็นกองทุนความั่งคั่งแห่งชาตินั้น นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำได้แต่ต้องยอมรับความเสี่ยง ในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของประเทศ หากตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจริง ก็สามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า และให้ดอกเบี้ยสูงกว่า รวมทั้งยังช่วยให้รัฐบาลมีเม็ดเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้ แต่ต้องยอมรับว่าการที่จะกำหนดว่าทุนสำรองระหว่างประเทศควรอยู่ที่ระดับใดนั้นเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชน กระตุ้นการจับจ่ายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลยังสามารถก่อหนี้สาธารณะ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะปัจจุบันระดับหนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ระดับร้อยละ 40-45 ของจีดีพี ยังไม่ถึงร้อยละ 60 ตามกรอบวินัยการคลัง ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 จะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ ส่วนโครงการรับจำนำข้าวถือเป็นอีก 1 โครงการ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะรายได้ที่เกษตรกรได้รับจะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แตกต่างจากโครงการรถยนต์คันแรก ที่ผู้ซื้อส่วนใหญเป็นชนชั้นกลางจะประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจำนำข้าวทำให้กลไกตลาดบิดเบือน ซึ่งเชื่อว่าท้ายรัฐบาลจะต้องปรับลดราคารับจำนำข้าวลง ส่วนแนวคิดที่จะนำเงินทุนสำรองประเทศตั้งเป็นกองทุนความั่งคั่งแห่งชาตินั้น นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำได้แต่ต้องยอมรับความเสี่ยง ในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของประเทศ หากตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจริง ก็สามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า และให้ดอกเบี้ยสูงกว่า รวมทั้งยังช่วยให้รัฐบาลมีเม็ดเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้ แต่ต้องยอมรับว่าการที่จะกำหนดว่าทุนสำรองระหว่างประเทศควรอยู่ที่ระดับใดนั้นเป็นเรื่องยาก