กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า พายุโซนร้อนหวู่ตึ๊บจะพัดขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม และอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ จ.นครพนมของไทย คาดว่าจะสลายตัวลงที่บริเวณรายต่อระหว่างภาคเหนือและภาคอีสาน แต่จะยังส่งผลให้ทางฝั่งตะวันออกของภาคอีสาน และภาคเหนือมีฝนตกหนักมากบางแห่ง พร้อมกับลมแรง โดยฝนจะเพิ่มมากขึ้นทางฝั่งตะวันออกของภาคอีสาน ตั้งแต่บ่ายวันนี้ (30 ก.ย.) เป็นต้นไป แต่ฝนที่ตกหนักก็ทำให้หลายพื้นที่จมน้ำ เพราะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาเสียหาย น้ำป่าจากเทือกเขาห้วยใหญ่ ไหลหลากเข้าท่วม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ หนักสุดในรอบ 7 ปี ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถยนต์ทุกชนิดสัญจรด้วยความลำบาก
ขณะที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 300 หลัง นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำกว่า 2,000 ไร่ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมบ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง อาสาสมัครกู้ภัย ต้องระดมเรือท้องแบนไปอพยพชาวบ้านมายังจุดที่ปลอดภัย
ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 นำเรือท้องแบนฝ่าสายน้ำเชี่ยวไปช่วยชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สิน ที่บ้านวังงิ้ว ต.เนินแจง อ.เมือง จ.อุทัยธานีโดยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ได้พัดเสาบ้านหลังหนึ่งหักถึง 4 ต้น ทำให้บ้านเอียง เจ้าหน้าที่ต้องยุติการขนย้าย เพราะเกรงจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ส่วนที่ จ.อ่างทองระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดอยู่ที่ 8.10 เมตร เลยจุดวิกฤตที่ 7.50 เมตร ส่งผลให้พื้นที่ลุ่ม ในเขต อ.เมือง จ.อ่างทอง และ อ.ป่าโมก ยังคงถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
ขณะที่ชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยา พากันหวาดวิตกว่า หากน้ำในแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้นจากพายุลูกใหม่ และไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำทั้ง 2 หนุนสูง และจะส่งผลให้พื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบหนักขึ้น
ขณะที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 300 หลัง นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำกว่า 2,000 ไร่ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมบ้านปลวกง่าม ต.ชมพู อ.เนินมะปราง อาสาสมัครกู้ภัย ต้องระดมเรือท้องแบนไปอพยพชาวบ้านมายังจุดที่ปลอดภัย
ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 นำเรือท้องแบนฝ่าสายน้ำเชี่ยวไปช่วยชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สิน ที่บ้านวังงิ้ว ต.เนินแจง อ.เมือง จ.อุทัยธานีโดยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ได้พัดเสาบ้านหลังหนึ่งหักถึง 4 ต้น ทำให้บ้านเอียง เจ้าหน้าที่ต้องยุติการขนย้าย เพราะเกรงจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ส่วนที่ จ.อ่างทองระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดอยู่ที่ 8.10 เมตร เลยจุดวิกฤตที่ 7.50 เมตร ส่งผลให้พื้นที่ลุ่ม ในเขต อ.เมือง จ.อ่างทอง และ อ.ป่าโมก ยังคงถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
ขณะที่ชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยา พากันหวาดวิตกว่า หากน้ำในแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้นจากพายุลูกใหม่ และไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำทั้ง 2 หนุนสูง และจะส่งผลให้พื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบหนักขึ้น