คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาธิต ปิตุเตชะ แถลงข่าว
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาปฏิเสธการกดบัตรแทนกันของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่มีคลิปวิดีโอยืนยันว่ามีการกระทำผิดจริง โดยอ้างว่าเป็นการตัดต่อว่า เป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ โดยเรื่องนี้พรรคเพื่อไทย และนายพร้อมพงศ์ ต้องรับผิดชอบ ตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริงว่าใครทำผิด ที่สำคัญคือ อย่ากดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และเคารพการตัดสินของศาล ทั้งกรณีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
นายสาธิต กล่าวว่า ขอเรียร้องให้พรรคเพื่อไทยมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ โดยเฉพาะนายพร้อมพงศ์ หากคลิปดังกล่าวไม่ตัดต่อพร้อมจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง แทนการใส่ร้ายแก้ตัวโดยไร้หลักฐานประกอบ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีต้องลงมาตรวจสอบเอง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ นายกรัฐมนตรีก็ได้ร่วมลงมติด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นขัดรัฐธรรมนูญเพราะสมาชิกคนหนึ่งจะมีเสียงเดียว ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เคยมีการพิพากษามาแล้ว เช่น กรณีองค์ประชุมไม่ครบ ก็ทำให้การตรากฎหมายดังกล่าวไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือจากประชาชนว่า ในการลงมติมาตรา 9 ในวันที่ 10 กันยายนนี้ และมาตรา 10 ในวันที่ 11 กันยายน เห็นส.ส.เพื่อไทยอยู่ที่ไหน ขอให้ส่งข้อมูลแจ้งมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะวันนั้นมีผู้เข้าร่วมประชุม 494 คน และมีการลงคะแนนเห็นด้วย 398 เสียง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีผู้เข้าร่วมประชุมมากขนาดนั้น แต่ตัวเลขดังกล่าวเกิดจากการกดบัตรแทนกัน
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาปฏิเสธการกดบัตรแทนกันของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งๆ ที่มีคลิปวิดีโอยืนยันว่ามีการกระทำผิดจริง โดยอ้างว่าเป็นการตัดต่อว่า เป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ โดยเรื่องนี้พรรคเพื่อไทย และนายพร้อมพงศ์ ต้องรับผิดชอบ ตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริงว่าใครทำผิด ที่สำคัญคือ อย่ากดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และเคารพการตัดสินของศาล ทั้งกรณีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
นายสาธิต กล่าวว่า ขอเรียร้องให้พรรคเพื่อไทยมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ โดยเฉพาะนายพร้อมพงศ์ หากคลิปดังกล่าวไม่ตัดต่อพร้อมจะรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง แทนการใส่ร้ายแก้ตัวโดยไร้หลักฐานประกอบ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีต้องลงมาตรวจสอบเอง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ นายกรัฐมนตรีก็ได้ร่วมลงมติด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นขัดรัฐธรรมนูญเพราะสมาชิกคนหนึ่งจะมีเสียงเดียว ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เคยมีการพิพากษามาแล้ว เช่น กรณีองค์ประชุมไม่ครบ ก็ทำให้การตรากฎหมายดังกล่าวไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือจากประชาชนว่า ในการลงมติมาตรา 9 ในวันที่ 10 กันยายนนี้ และมาตรา 10 ในวันที่ 11 กันยายน เห็นส.ส.เพื่อไทยอยู่ที่ไหน ขอให้ส่งข้อมูลแจ้งมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะวันนั้นมีผู้เข้าร่วมประชุม 494 คน และมีการลงคะแนนเห็นด้วย 398 เสียง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีผู้เข้าร่วมประชุมมากขนาดนั้น แต่ตัวเลขดังกล่าวเกิดจากการกดบัตรแทนกัน
