นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนพระรามหกระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 239 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้เกือบ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก ตั้งแต่อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวงถึงอำเภอพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร แต่มวลน้ำในชุดของเขื่อนพระรามหกชุดนี้จะมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่วัดพนัญเชิงวรวิหารจะส่งผลกระทบถึงตำบลปากกราน คลองตะเคียน ของอำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นตำบลที่ติดอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงตำบลบ้านป้อม อำเภอบางปะอิน และบางไทร น้ำเฉลี่ยจะสูงขึ้น 15-20 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ซึ่ง นายอุดมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับมวลน้ำที่ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบในวันนี้ สืบเนื่องจากที่อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ปริมาณฝนตกสูงสุด 80 มิลลิเมตร อำเภอโพทอง จังหวัดอ่างทอง 70 มิลลิเมตร รวมทั้งลพบุรี ฝนตกที่อำเภอท่าหลวง 149 มิลลิเมตร ถือว่าหนักมาก ดังนั้น มวลน้ำที่ตกรอบวันตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำที่ผ่านอำเภอเมืองอ่างทองเพิ่มสูงขึ้น จากน้ำที่ระบายจากแม่น้ำเจ้าพระยา 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงอยู่ที่ 1,722 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมวลน้ำนี้ทำให้ส่งผลกระทบกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่ง นายอุดมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับมวลน้ำที่ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบในวันนี้ สืบเนื่องจากที่อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ปริมาณฝนตกสูงสุด 80 มิลลิเมตร อำเภอโพทอง จังหวัดอ่างทอง 70 มิลลิเมตร รวมทั้งลพบุรี ฝนตกที่อำเภอท่าหลวง 149 มิลลิเมตร ถือว่าหนักมาก ดังนั้น มวลน้ำที่ตกรอบวันตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้น้ำที่ผ่านอำเภอเมืองอ่างทองเพิ่มสูงขึ้น จากน้ำที่ระบายจากแม่น้ำเจ้าพระยา 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงอยู่ที่ 1,722 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมวลน้ำนี้ทำให้ส่งผลกระทบกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
