นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ว่า ทุกรัฐบาลที่เดินทางไปต่างประเทศย่อมมีค่าใช้จ่าย ไม่ได้แตกต่างกัน สมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เดินทางไป เพราะการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีถือว่ามีความสำคัญ โดยเฉพาะการนำนักธุรกิจร่วมคณะไปด้วย เพื่อต่อยอดการค้าการลงทุนได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญเหมือนประเทศไทยได้กลับมามีเครดิตและได้รับความเชื่อมั่นอีกครั้ง หลังจากที่ถูกทำลายจากการรัฐประหารเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จนหลายประเทศไม่ยอมคบหาสมาคมกับไทย ความสัมพันธ์ที่ได้กลับคืนมาถือว่ามีมูลค่ามหาศาล
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องนี้สามารถชี้แจงได้ และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารเป็นรูปเล่มเพื่อชี้แจงถึงผลที่ได้จากการเดินทางไปต่างประเทศให้สาธารณชนได้รับทราบ คาดว่าจะแจกได้ในช่วงปลายเดือนนี้ รวมทั้งจะชี้แจงในการแถลงผลงานรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาด้วย
ส่วนที่มีข่าวว่าการเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้งใช้งบประมาณ 40-50 ล้านบาทนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า การเดินทางแต่ละครั้งมีระยะทางไกล-ใกล้ต่างกัน คงไม่ยุติธรรมหากเอาเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายมาเทียบกับผลที่ได้รับกลับมา
วันนี้ประเทศไทยยืนอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิใจและมีความมั่นคงในสายตาชาวโลก ถ้ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีไม่เดินทางไปทำความเข้าใจก็คงไม่เกิดการลงทุนในประเทศเหมือนทุกวันนี้ หลายรัฐบาลแม้อยากไป แต่ไม่ได้เดินทางไป โดยเฉพาะหลายประเทศในยุโรป ไม่ได้เชิญรัฐบาลไทยไปนานแล้ว หรือแม้เดินทางไปก็ไม่ได้พบกับระดับผู้ใหญ่ของประเทศนั้นๆ เพราะเขาระบุว่าเป็นเพราะประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย แต่วันนี้ทุกประเทศพร้อมเชิญเราไปเพราะมีความมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องนี้สามารถชี้แจงได้ และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารเป็นรูปเล่มเพื่อชี้แจงถึงผลที่ได้จากการเดินทางไปต่างประเทศให้สาธารณชนได้รับทราบ คาดว่าจะแจกได้ในช่วงปลายเดือนนี้ รวมทั้งจะชี้แจงในการแถลงผลงานรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาด้วย
ส่วนที่มีข่าวว่าการเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้งใช้งบประมาณ 40-50 ล้านบาทนั้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า การเดินทางแต่ละครั้งมีระยะทางไกล-ใกล้ต่างกัน คงไม่ยุติธรรมหากเอาเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายมาเทียบกับผลที่ได้รับกลับมา
วันนี้ประเทศไทยยืนอยู่ได้ด้วยความภาคภูมิใจและมีความมั่นคงในสายตาชาวโลก ถ้ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีไม่เดินทางไปทำความเข้าใจก็คงไม่เกิดการลงทุนในประเทศเหมือนทุกวันนี้ หลายรัฐบาลแม้อยากไป แต่ไม่ได้เดินทางไป โดยเฉพาะหลายประเทศในยุโรป ไม่ได้เชิญรัฐบาลไทยไปนานแล้ว หรือแม้เดินทางไปก็ไม่ได้พบกับระดับผู้ใหญ่ของประเทศนั้นๆ เพราะเขาระบุว่าเป็นเพราะประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย แต่วันนี้ทุกประเทศพร้อมเชิญเราไปเพราะมีความมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง