หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 19 และ 20 กันยายน กรุงเทพมหานครจะมีฝนตกหนัก 100% เต็มของพื้นที่ ทำให้กรุงเทพมหานครต้องเตรียมมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมขัง โดยจะเพิ่มเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำภายในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พื้นที่เฝ้าระวังเบื้องต้นมี 10 เขต เช่น เขตบางซื่อ ย่านเตาปูน เขตจตุจักร ย่านสถานีหมอชิตเก่า เขตบางกะปิ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา, เขตประเวศ แยกบางนา-เสรีเซ็นเตอร์ เขตบางบอน บริเวณถนนเอกชัย-บางบอน เขตบางแค ถนนเพชรเกษม รวมทั้งเขตดุสิต เขตสายไหม เขตตลิ่งชัน และเขตบางจาก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และเป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งจะมีน้ำท่วมหากมีฝนตกหนัก
นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.มีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ทำให้พื้นที่ต่ำประสบปัญหาน้ำท่วมขัง จึงใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งจากการพัฒนาระบบ ทำให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น โดยหากเกิดฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตร จะใช้เวลาระบาย 2-3 ชั่วโมง จากเดิมที่้ต้องใช้เวลาระบาย 5-6 ชั่วโมง ขณะที่อุโมงค์ระบายน้ำยังใช้การได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่า ระบบคลองไม่สมบูรณ์ เพราะคลองสายหลักยังติดปัญหาการรุกล้ำจากประชาชน
นอกจากนี้ กทม.จะยังใช้เทคนิคนำกระสอบทรายใส่ลงในท่อระบายน้ำ เพื่อปิดล้อมพื้นที่บล็อกน้ำ แล้วสูบน้ำออกคลองในพื้นที่ต่ำมากๆ เช่น ที่ถนนรามคำแหง และบางจุดก็ได้ติดตั้งประตูอัตโนมัติในท่อระบายน้ำแล้ว
อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจส่วนหน้า บริเวณด้านหน้ากรมการขนส่งทางบกจตุจักร รวมทั้งตั้งหน่วยเคลื่อนที่ทำงานร่วมกับเขต 50 เขต เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งหากเกิดฝนตกในชั่วโมงเร่งด่วน แนะนำให้เลี่ยงเวลาการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรที่ติดขัดหนัก หรือหากมีข้อร้องเรียนและต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน กทม. 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พื้นที่เฝ้าระวังเบื้องต้นมี 10 เขต เช่น เขตบางซื่อ ย่านเตาปูน เขตจตุจักร ย่านสถานีหมอชิตเก่า เขตบางกะปิ บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา, เขตประเวศ แยกบางนา-เสรีเซ็นเตอร์ เขตบางบอน บริเวณถนนเอกชัย-บางบอน เขตบางแค ถนนเพชรเกษม รวมทั้งเขตดุสิต เขตสายไหม เขตตลิ่งชัน และเขตบางจาก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และเป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งจะมีน้ำท่วมหากมีฝนตกหนัก
นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.มีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ทำให้พื้นที่ต่ำประสบปัญหาน้ำท่วมขัง จึงใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งจากการพัฒนาระบบ ทำให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น โดยหากเกิดฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตร จะใช้เวลาระบาย 2-3 ชั่วโมง จากเดิมที่้ต้องใช้เวลาระบาย 5-6 ชั่วโมง ขณะที่อุโมงค์ระบายน้ำยังใช้การได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่า ระบบคลองไม่สมบูรณ์ เพราะคลองสายหลักยังติดปัญหาการรุกล้ำจากประชาชน
นอกจากนี้ กทม.จะยังใช้เทคนิคนำกระสอบทรายใส่ลงในท่อระบายน้ำ เพื่อปิดล้อมพื้นที่บล็อกน้ำ แล้วสูบน้ำออกคลองในพื้นที่ต่ำมากๆ เช่น ที่ถนนรามคำแหง และบางจุดก็ได้ติดตั้งประตูอัตโนมัติในท่อระบายน้ำแล้ว
อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจส่วนหน้า บริเวณด้านหน้ากรมการขนส่งทางบกจตุจักร รวมทั้งตั้งหน่วยเคลื่อนที่ทำงานร่วมกับเขต 50 เขต เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งหากเกิดฝนตกในชั่วโมงเร่งด่วน แนะนำให้เลี่ยงเวลาการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรที่ติดขัดหนัก หรือหากมีข้อร้องเรียนและต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน กทม. 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง