นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการตลาดทางการเมืองที่ลงทุนสูงแต่ไม่มีผลกำไร และขาดทุนอีกด้วย เพราะใช้เงินภาษีประชาชน ซึ่งรัฐบาลควรใส่ใจทุ่มเทการแก้ปัญหาปากท้องมากกว่านี้ อีกทั้งพฤติกรรมชัดเจนว่า เดินตามทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแบบให้ ล่าสุด ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และมอนเตเนโกร ก็ไม่มีวาระชัดเจนว่าจะไปเจรจาเรื่องอะไร และเป็นที่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สัญชาติ และเป็นพลเมืองมอนเตเนโกรแล้ว เพราะลงทุนและทำธุรกิจที่ประเทศนั้น จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแถลงวาระการเดินทางอย่างชัดเจน และเมื่อเดินทางกลับต้องทำรายงานชี้แจงต่อประชาชน เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีวาระส่วนตัว หรือวาระต่อตระกูล
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน และเตรียมร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสถานภาพของรัฐบาล ว่า ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 2 การได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะรัฐบาลถูกครอบงำจากคนที่กำลังพลัดถิ่นหลบหนีคดีอยู่ต่างแเดน
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน และเตรียมร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสถานภาพของรัฐบาล ว่า ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 2 การได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะรัฐบาลถูกครอบงำจากคนที่กำลังพลัดถิ่นหลบหนีคดีอยู่ต่างแเดน
