พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า จากการประสานไปยังผู้อำนวยความสะดวก คือมาเลเซีย เพื่อสอบถามรายละเอียดที่ชัดเจนถึงข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ล่าสุดทางมาเลเซียได้ส่งรายละเอียดมาเป็นภาษาอังกฤษและไทย มาถึงตน เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ยืนยันว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ไม่มีประเด็นใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญไทย เช่น การยกฐานะให้ประเทศมาเลเซียจากผู้อำนวยความสะดวกมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย การเสนอให้องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) เอ็นจีโอ เข้ามาร่วมสังเกตการณ์การแก้ปัญหา หรือแม้แต่การยอมรับความเป็นมลายูปัตตานี โดยกลุ่มบีอาร์เอ็นระบุว่า เป็นเพียงเรื่องเอกลักษณ์ของชนชาติมลายูไม่ได้หมายความถึงการแบ่งแยกดินแดนแต่อย่างใด
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า หลังจากรับข้อเสนอมาแล้วคณะทำงานฝ่ายไทยจะนำรายละเอียดการชี้แจงมาหารือ และวิเคราะห์ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องนี้อยู่ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ในสัปดาห์หน้า
ส่วนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นคาดว่า จะเป็นช่วงสัปดาห์ที่สองหรือสามของเดือนตุลาคมนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนวันและเวลาในการพูดคุยจะหารือกันอีกครั้ง โดยการพูดคุยในครั้งหน้าจะหยิบยกเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาขึ้นมาหารือด้วย เพราะที่ผ่านมามีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการมาบ้างแล้วว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มไหนกระทำการ ดังนั้น การหารือครั้งหน้าเชื่อว่าจะได้คำตอบที่เป็นทางการ
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า หลังจากรับข้อเสนอมาแล้วคณะทำงานฝ่ายไทยจะนำรายละเอียดการชี้แจงมาหารือ และวิเคราะห์ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องนี้อยู่ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ในสัปดาห์หน้า
ส่วนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นคาดว่า จะเป็นช่วงสัปดาห์ที่สองหรือสามของเดือนตุลาคมนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนวันและเวลาในการพูดคุยจะหารือกันอีกครั้ง โดยการพูดคุยในครั้งหน้าจะหยิบยกเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาขึ้นมาหารือด้วย เพราะที่ผ่านมามีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการมาบ้างแล้วว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มไหนกระทำการ ดังนั้น การหารือครั้งหน้าเชื่อว่าจะได้คำตอบที่เป็นทางการ
