ว่าที่ ร.ต.วันชัย ใจกุศล รองผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ปีนี้จะมีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผู้บริหารเทศบาล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครบวาระ ต้องมีการจัดการเลือกตั้งผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ถึง 3,721 แห่งทั่วประเทศ ส่วนใหญ่กว่า 3,000 แห่ง ได้ครบวาระไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่ต้องจัดการเลือกตั้งมากที่สุดของปี ซึ่งหลายแห่งจะเริ่มเปิดรับสมัครผู้ประสงค์สมัครเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.)
ในส่วนของ กกต.ได้มอบให้แต่ละพื้นที่ที่ต้องจัดการเลือกตั้ง ตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งแล้วเสร็จทุกแห่งแล้ว พร้อมเรียกประชุมซักซ้อมความเข้าใจ วางแผนการทำงาน แก้ปัญหาความขัดข้องไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ให้มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งเต็มที่ เร่งทำความเข้าใจ และเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมบริหารพื้นที่ให้เจริญก้าวหน้าอย่างที่้ต้องการ ขอให้มาลงสมัครได้ภายในกรอบเวลา 5 วัน ตั้งแต่พื้นที่ประกาศรับสมัคร
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องศึกษาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครให้ดี เพราะกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นระบุชัด ผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นต้องเป็นคนสัญชาติไทยแต่กำเนิด ไม่ใช้วุฒิการศึกษา แต่ต้องอายุ 25 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้บริหาร อบต. เทศบาลเมือง และ อบจ. ต้องใช้วุฒิการศึกษาปริญญาตรี และมีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ว่าที่ ร.ต.วันชัย กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีนี้ อบต.หลายแห่งมีการยกระดับขึ้นเป็นเทศบาล ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเลือกได้หมู่บ้านละ 2 คน ตอนเป็น อบต.จะเปลี่ยนเป็นเลือกได้ 6 คน ต่อหน่วยเลือกตั้ง จึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจข้อมูลพื้นที่ตัวเองให้ดีก่อนที่จะทำการกากบาทลงในบัตรเลือกตั้ง และหย่อนให้ถูกกล่อง เพื่อไม่ให้เกิดบัตรเสีย
ในส่วนของ กกต.ได้มอบให้แต่ละพื้นที่ที่ต้องจัดการเลือกตั้ง ตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งแล้วเสร็จทุกแห่งแล้ว พร้อมเรียกประชุมซักซ้อมความเข้าใจ วางแผนการทำงาน แก้ปัญหาความขัดข้องไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่จะเปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ให้มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งเต็มที่ เร่งทำความเข้าใจ และเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมบริหารพื้นที่ให้เจริญก้าวหน้าอย่างที่้ต้องการ ขอให้มาลงสมัครได้ภายในกรอบเวลา 5 วัน ตั้งแต่พื้นที่ประกาศรับสมัคร
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องศึกษาเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครให้ดี เพราะกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นระบุชัด ผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นต้องเป็นคนสัญชาติไทยแต่กำเนิด ไม่ใช้วุฒิการศึกษา แต่ต้องอายุ 25 ปีขึ้นไป ส่วนผู้ที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งผู้บริหาร อบต. เทศบาลเมือง และ อบจ. ต้องใช้วุฒิการศึกษาปริญญาตรี และมีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ว่าที่ ร.ต.วันชัย กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีนี้ อบต.หลายแห่งมีการยกระดับขึ้นเป็นเทศบาล ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเลือกได้หมู่บ้านละ 2 คน ตอนเป็น อบต.จะเปลี่ยนเป็นเลือกได้ 6 คน ต่อหน่วยเลือกตั้ง จึงขอให้ประชาชนทำความเข้าใจข้อมูลพื้นที่ตัวเองให้ดีก่อนที่จะทำการกากบาทลงในบัตรเลือกตั้ง และหย่อนให้ถูกกล่อง เพื่อไม่ให้เกิดบัตรเสีย