นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แม้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ของไทยในครึ่งปีแรกจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.1 แต่ภาคการส่งออกของไทย หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนยังอยู่ในระดับที่ขยายตัวใกล้เคียงกัน และขยายตัวได้ดีกว่า แม้การส่งออกในไตรมาสแรกจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.3 ส่วนไตรมาสที่ 2 ติดลบร้อยละ 2.2 ขณะที่สาเหตุส่วนใหญ่มาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากความต้องการจากคำสั่งซื้อจากตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งในปีนี้อาจขยายตัวได้ถึงร้อยละ 18.1 หรือคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 26.4 ล้านคน
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เชื่อว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่า 238,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การปรับประมาณการจีดีพีของทางกระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการประเมิน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การส่งออกของไทยในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากความต้องการจากคำสั่งซื้อจากตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งในปีนี้อาจขยายตัวได้ถึงร้อยละ 18.1 หรือคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 26.4 ล้านคน
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เชื่อว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5 หรือคิดเป็นมูลค่า 238,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การปรับประมาณการจีดีพีของทางกระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการประเมิน
