พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยผลการทำงานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพโดยเฉพาะงานด้านการช่วยเหลือผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ว่า หลังจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ ใช้วิธีเดินหน้าเข้าหาผู้เสียหายทั้งการติดตามสถานการณ์และจากการประสานตำรวจท้องที่ให้ช่วยแจ้งสิทธิรับค่าชดเชยเยียวยากับผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ ทำให้ประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายรู้สิทธิและเข้ายื่นคำร้องมากขึ้น จากเดิมมีผู้เสียหายเข้าใช้สิทธิเพียงร้อยละ 18 แต่รอบปีที่ผ่านมามีผู้ยื่นคำขอใช้สิทธิมากกว่าร้อยละ 33 สถิติดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดี ว่าผู้เสียหายปัจจุบันจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยารวดเร็วมากขึ้น ซึ่งในปีนี้มีผู้ยื่นคำขอใช้สิทธิแล้วเกือบ 9,000 ราย คิดเป็นเงินช่วยเหลือกว่า 250 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้เสียหายจำนวนกว่า 8,200 ราย และจำเลย 715 ราย สำหรับเงินที่ต้องนำมาช่วยเหลือรัฐบาลยังติดหนี้ประชาชนอยู่อีกประมาณ 50 ล้านบาท เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของบฯ เพิ่มเติมจากที่ได้รับงบช่วยเหลือวงเงินเพียง 200 ล้านบาทต่อปี
สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านแบ่งเป็นหลายส่วนทั้งเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมกลุ่มผู้ถูกดำเนินคดีจากเหตุทางการเมืองปี 2548-2553 ล่าสุดพิจารณาจ่ายเงินไปแล้ว 176 ราย รวมเป็นเงินกว่า 55 ล้านบาทบาท
นอกจากนี้ ยังใช้เงินกองทุนยุติธรรมช่วยประกันตัวกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง คือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำนวน 31 ราย เป็นเงิน 45 ล้านบาท กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 52 ราย เป็นเงินกว่า 31 ล้านบาท
สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านแบ่งเป็นหลายส่วนทั้งเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมกลุ่มผู้ถูกดำเนินคดีจากเหตุทางการเมืองปี 2548-2553 ล่าสุดพิจารณาจ่ายเงินไปแล้ว 176 ราย รวมเป็นเงินกว่า 55 ล้านบาทบาท
นอกจากนี้ ยังใช้เงินกองทุนยุติธรรมช่วยประกันตัวกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง คือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำนวน 31 ราย เป็นเงิน 45 ล้านบาท กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 52 ราย เป็นเงินกว่า 31 ล้านบาท
