เหตุผลของการแถลงในครั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (บอร์ด กทค.) ของ กสทช.จำนวน 4 ใน 5 คน ได้แก่ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ นายสุทธิพล ทวีชัยการ สุกิจ ขมะสุนทร นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ และสำนักงาน กสทช. โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาท น.ส.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ (TDRI) และ น.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน บรรณาธิการข่าว และผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่า ในการให้ข้อมูลและนำเสนอข่าว กสทช.ขยายสัมปทานคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ จนทำให้เกิดความเสียหาย
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ รศ.มาลี บุญศิริพันธ์ ประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส และนายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมแถลงว่า การฟ้องร้องดังกล่าว ทางทีดีอาร์ไอ ไทยพีบีเอส และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในฐานะองค์กรกลางของสื่อวิทยุและโทรทัศน์ เห็นว่าเป็นการคุกคามการทำงานของนักวิชาการและสื่อมวลชน ที่ตรวจสอบการทำงานของบอร์ด กทค. อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ขณะที่ รศ.มาลี ยืนยันถึงการทำหน้าที่สื่อมวลชนของไทยพีบีเอส ในการตรวจสอบผลประโยชน์ทางสาธารณะ โดยเฉพาะเป็นประเด็นที่สังคมยังมีความแคลงใจ ซึ่ง กสทช.ก็ควรใช้ช่องทางสื่อชี้แจงในประเด็นดังกล่าวมากกว่าการฟ้องร้อง ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นการข่มขู่การทำหน้าที่ตรวจสอบของสื่อมวลชน
ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในคณะกรรมการ กสทช.ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่บอร์ด กทค.ฟ้องร้อง เพราะนอกจากถูกมองว่าคุกคามสิทธิเสรีภาพแล้ว กสทช.อาจถูกมองว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ พร้อมยืนยันด้วยว่า หากคดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ก็พร้อมเบิกความเป็นพยานให้ฝ่ายผู้ถูกฟ้อง
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ รศ.มาลี บุญศิริพันธ์ ประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส และนายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมแถลงว่า การฟ้องร้องดังกล่าว ทางทีดีอาร์ไอ ไทยพีบีเอส และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในฐานะองค์กรกลางของสื่อวิทยุและโทรทัศน์ เห็นว่าเป็นการคุกคามการทำงานของนักวิชาการและสื่อมวลชน ที่ตรวจสอบการทำงานของบอร์ด กทค. อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ขณะที่ รศ.มาลี ยืนยันถึงการทำหน้าที่สื่อมวลชนของไทยพีบีเอส ในการตรวจสอบผลประโยชน์ทางสาธารณะ โดยเฉพาะเป็นประเด็นที่สังคมยังมีความแคลงใจ ซึ่ง กสทช.ก็ควรใช้ช่องทางสื่อชี้แจงในประเด็นดังกล่าวมากกว่าการฟ้องร้อง ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นการข่มขู่การทำหน้าที่ตรวจสอบของสื่อมวลชน
ด้าน น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในคณะกรรมการ กสทช.ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่บอร์ด กทค.ฟ้องร้อง เพราะนอกจากถูกมองว่าคุกคามสิทธิเสรีภาพแล้ว กสทช.อาจถูกมองว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ พร้อมยืนยันด้วยว่า หากคดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ก็พร้อมเบิกความเป็นพยานให้ฝ่ายผู้ถูกฟ้อง
