พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย ดร.มะรอนิง สาแลมิง รองเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมพบปะให้กำลังใจกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับคัดเลือกไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2556 จำนวน 50 คน ในโอกาสนี้ได้มีการบรรยายและชี้แจงการเตรียมความพร้อมเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ และการใช้ชีวิตในประเทศซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต.สนับสนุนผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพื่อเปิดโอกาสโควต้าพิเศษให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลาม ที่เป็นการเยียวยาสภาพจิตใจด้วยมิติของศาสนา คืนความเป็นธรรม การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น อีกทั้งการทำฮัจญ์ ยังมีเป้าหมายในการขัดเกลาจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จะต้องใช้ความอุตสาหะ เสียสละ และอดทนต่อความยากลำบาก
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า การทำฮัจญ์เป็นสิ่งที่มุสลิมทั่วโลกหวังว่าจะต้องปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาให้สำเร็จในครั้งหนึ่งของชีวิต ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการทุกคนไม่ใช่แค่เพียงเป็นตัวแทนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ให้ถือเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ภาษา อัตลักษณ์ และเศรษฐกิจ
สำหรับการประกอบพิธีฮัจญ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อนำสันติภาพกลับคืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืนต่อไป
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต.สนับสนุนผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพื่อเปิดโอกาสโควต้าพิเศษให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมหลักปฏิบัติของศาสนาอิสลาม ที่เป็นการเยียวยาสภาพจิตใจด้วยมิติของศาสนา คืนความเป็นธรรม การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น อีกทั้งการทำฮัจญ์ ยังมีเป้าหมายในการขัดเกลาจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จะต้องใช้ความอุตสาหะ เสียสละ และอดทนต่อความยากลำบาก
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า การทำฮัจญ์เป็นสิ่งที่มุสลิมทั่วโลกหวังว่าจะต้องปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาให้สำเร็จในครั้งหนึ่งของชีวิต ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการทุกคนไม่ใช่แค่เพียงเป็นตัวแทนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ให้ถือเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ภาษา อัตลักษณ์ และเศรษฐกิจ
สำหรับการประกอบพิธีฮัจญ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อนำสันติภาพกลับคืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืนต่อไป
