น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ที่ใช้งบก่อสร้างกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนด แม้มีการขยายสัญญาก่อสร้างหลายรอบ ว่า วันที่ 5 กันยายนนี้ บอร์ด อภ.จะประชุมนัดพิเศษครั้งสุดท้าย ทบทวนรายละเอียดมติบอร์ด อภ.ที่ให้ขยายสัญญาก่อสร้างกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายเดิม ทำงานต่อให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลา 515 วัน โดยจะเพิ่มงบประมาณอีก 45 ล้านบาท เพื่อวางระบบความปลอดภัยโรงงานวัคซีนใหม่ ให้มีมาตรฐานระบบความปลอดภัยสูงขึ้น ทั้งกับคนและสิ่งแวดล้อม เป็นระดับที่สามารถรองรับเชื้อรุนแรงที่อาจมีการระบาดในอนาคต หากเกิดขึ้นจริง โรงงานนี้ต้องพร้อมนำเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดรุนแรงนั้นมาเพาะ และผลิตเป็นวัคซีนได้ทันที โดยหลังประชุมนัดพิเศษครั้งสุดท้ายแล้วเสร็จ จะเร่งเสนอเรื่องให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่งต่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอให้ทันภายในเดือนกันยายนนี้
สำหรับโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ของ อภ. ก่อสร้างในพื้นที่ จ.สระบุรี หากแล้วเสร็จจะเป็นโรงงานใหญในการผลิตวัคซีนชนิดเชื้อตายไว้ใช้ในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ส่วนกรณีการก่อสร้างโรงงานผลิตยาใหม่ที่มีกำลังการผลิตสูง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ อภ. ซึ่งมีปัญหาก่อสร้างล่าช้าเช่นกันนั้น ประธานกรรมการ อภ. ยืนยันว่า ขณะนี้แล้วเสร็จ และเริ่มเปิดทดสอบเครื่องไปจนครบแล้ว คาดว่าจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการประมาณวันที่ 20 กันยายนนี้
สำหรับโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ของ อภ. ก่อสร้างในพื้นที่ จ.สระบุรี หากแล้วเสร็จจะเป็นโรงงานใหญในการผลิตวัคซีนชนิดเชื้อตายไว้ใช้ในประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ส่วนกรณีการก่อสร้างโรงงานผลิตยาใหม่ที่มีกำลังการผลิตสูง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ อภ. ซึ่งมีปัญหาก่อสร้างล่าช้าเช่นกันนั้น ประธานกรรมการ อภ. ยืนยันว่า ขณะนี้แล้วเสร็จ และเริ่มเปิดทดสอบเครื่องไปจนครบแล้ว คาดว่าจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการประมาณวันที่ 20 กันยายนนี้