ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาในส่วนของมาตราที่ 3 เกี่ยวกับการแก้ไขที่มาและจำนวนของสมาชิกวุฒิสภา นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยในการแก้ไขบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาและจำนวนของสมาชิกวุฒิสภา โดยการให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 นั้นว่า หลักการของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ในขณะนั้น ทำให้เกิดการรวบอำนาจทางการเมือง จนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองบางพรรค และยังเปิดช่องทางการทุจริตคอร์รัปชัน ของนักการเมือง และนำไปสู่การยึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรี จนเกิดปัญหาการปฏิวัติรัฐประหารขึ้น และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2550
โดยมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2550 นั้น เป็นการทำให้เกิดอำนาจถ่วงดุล โดยการให้มีสมาชิกวุฒิสภาขึ้นมาจากการสรรหา เพื่อให้สามารถเข้ามามีอำนาจในการตรวจสอบองค์กรอิสระ และการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้น การนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ระบุให้สมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งนั้น จะนำไปสู่การยึดโยงทางการเมืองอีกครั้ง เนื่องจากมีการระบุให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถดำรงตำแหน่งได้มากกว่า 1 วาระ ต่างกับรัฐธรรมนูญในฉบับปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้เครือญาติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถลงสมัครรับการเลือกตั้งได้อีกด้วย
โดยมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2550 นั้น เป็นการทำให้เกิดอำนาจถ่วงดุล โดยการให้มีสมาชิกวุฒิสภาขึ้นมาจากการสรรหา เพื่อให้สามารถเข้ามามีอำนาจในการตรวจสอบองค์กรอิสระ และการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้น การนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ระบุให้สมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งนั้น จะนำไปสู่การยึดโยงทางการเมืองอีกครั้ง เนื่องจากมีการระบุให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถดำรงตำแหน่งได้มากกว่า 1 วาระ ต่างกับรัฐธรรมนูญในฉบับปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้เครือญาติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถลงสมัครรับการเลือกตั้งได้อีกด้วย