เกิดเหตุระเบิดขึ้นหน้ามัสยิด 2 แห่ง ของชาวสุหนี่ ในเมืองตริโปลี ทางภาคเหนือของเลบานอน หลังเสร็จสิ้นพิธีละหมาดในวันศุกร์ โดยคนร้ายวางระเบิดไว้ในรถยนต์ และกล้องวงจรปิดของมัสยิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนถนน ท่ามกลางเศษชิ้นส่วนรถยนต์ กระจัดกระจายไปทั่ว ขณะที่ภายในมัสยิดเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย และคราบเลือด มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 350 คน
นับเป็นเหตุระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเมืองตริโปลี นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในเลบานอนสิ้นสุดลง และเป็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดในเลบานอน ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เดินหน้ากวาดล้างฝ่ายต่อต้านที่เป็นนิกายกลุ่มสุหนี่ ส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างนิกายลุกลาม ขยายวงกว้างเข้ามาในเลบานอน
แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนถนน ท่ามกลางเศษชิ้นส่วนรถยนต์ กระจัดกระจายไปทั่ว ขณะที่ภายในมัสยิดเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย และคราบเลือด มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 350 คน
นับเป็นเหตุระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเมืองตริโปลี นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในเลบานอนสิ้นสุดลง และเป็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดในเลบานอน ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เดินหน้ากวาดล้างฝ่ายต่อต้านที่เป็นนิกายกลุ่มสุหนี่ ส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างนิกายลุกลาม ขยายวงกว้างเข้ามาในเลบานอน