นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายเป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
เมื่อศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ประชุม พร้อมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จากคำเบิกความของพยาน ที่ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ได้ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เห็นว่าเป็นการกระทำที่ทำให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งประธานองคมนตรี เมื่อโจทก์เป็นผู้สนับสนุนกลุ่ม นปก. จึงทำให้เชื่อว่าโจทก์มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว มีเหตุผลเพียงพอทำให้เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่เคารพสถาบันเบื้องสูง การกระทำของนายสนธิ จึงเป็นแสดงความคิดเห็น ติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษากลับ ยกฟ้อง
เมื่อศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ประชุม พร้อมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จากคำเบิกความของพยาน ที่ระบุว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ได้ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เห็นว่าเป็นการกระทำที่ทำให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งประธานองคมนตรี เมื่อโจทก์เป็นผู้สนับสนุนกลุ่ม นปก. จึงทำให้เชื่อว่าโจทก์มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว มีเหตุผลเพียงพอทำให้เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมไม่เคารพสถาบันเบื้องสูง การกระทำของนายสนธิ จึงเป็นแสดงความคิดเห็น ติชมด้วยความเป็นธรรม จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษากลับ ยกฟ้อง
