โพลชี้คนญี่ปุ่น-คนจีนมีความรู้สึกติดลบต่อกันมากที่สุดในช่วงเวลาเกือบ 10ปี ในขณะที่ความสัมพันธ์ของประเทศมหาอำนาจแห่งเอเชีย 2 รายนี้กำลังตึงเครียดหนัก โดยประเด็นที่ผู้ตอบแบบสอบถามลงความเห็นว่าต้นตอสำคัญที่สุดของทัศนคติแง่ลบได้แก่กรณีพิพาทช่วงชิงดินแดนหมู่เกาะเซงกากุ/เตี้ยวอี๋ว์
ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลีของทางการจีน ร่วมกับเกนรอน เอ็นพีโอ กลุ่มคลังสมองของญี่ปุ่น และเผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี (8) ระบุว่า ชาวญี่ปุ่น 92.8% มีความประทับใจต่อจีนในแง่ลบจนถึงลบมาก ขณะที่ชาวแดนมังกร 90.1% รู้สึกติดลบกับแดนอาทิตย์อุทัย
ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจประจำปีครั้งที่ 9 และไชน่า เดลีชี้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ “เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ” เลวร้ายกว่าในปี 2005 ที่จุนอิชิโร โคอิซุมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น แวะเวียนไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ ซึ่งเป็นสถานที่รำลึกทหารญี่ปุ่นรวมถึงอาชญากรสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ประเทศทั้งสองมีความกินแหนงแคลงใจกันมาอย่างยาวนาน จากการที่กองทัพญี่ปุ่นยึดครองพื้นที่หลายส่วนของจีนอย่างเหี้ยมโหดในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ปักกิ่งนั้นกล่าวหาโตเกียวเสมอมาว่าล้มเหลวในการสำนึกผิดและไถ่บาปที่ได้ก่อเอาไว้ในอดีต ขณะที่ญี่ปุ่นโต้กลับว่า จีนพยายามใช้อดีตมาเป็นเครื่องมือทางการทูตเพื่อลงโทษตนไม่รู้จบรู้สิ้น
ทว่าประเด็นที่จัดว่าร้อนฉ่าที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่การช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายควบคุมอยู่และเรียกชื่อว่าเซงกากุ ขณะที่จีนก็อ้างสิทธิ์ครอบครองอย่างไม่ละลดและเรียกชื่อว่าเตี้ยวอี๋ว์
ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลีของทางการจีน ร่วมกับเกนรอน เอ็นพีโอ กลุ่มคลังสมองของญี่ปุ่น และเผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี (8) ระบุว่า ชาวญี่ปุ่น 92.8% มีความประทับใจต่อจีนในแง่ลบจนถึงลบมาก ขณะที่ชาวแดนมังกร 90.1% รู้สึกติดลบกับแดนอาทิตย์อุทัย
ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจประจำปีครั้งที่ 9 และไชน่า เดลีชี้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ “เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ” เลวร้ายกว่าในปี 2005 ที่จุนอิชิโร โคอิซุมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น แวะเวียนไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ ซึ่งเป็นสถานที่รำลึกทหารญี่ปุ่นรวมถึงอาชญากรสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ประเทศทั้งสองมีความกินแหนงแคลงใจกันมาอย่างยาวนาน จากการที่กองทัพญี่ปุ่นยึดครองพื้นที่หลายส่วนของจีนอย่างเหี้ยมโหดในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ปักกิ่งนั้นกล่าวหาโตเกียวเสมอมาว่าล้มเหลวในการสำนึกผิดและไถ่บาปที่ได้ก่อเอาไว้ในอดีต ขณะที่ญี่ปุ่นโต้กลับว่า จีนพยายามใช้อดีตมาเป็นเครื่องมือทางการทูตเพื่อลงโทษตนไม่รู้จบรู้สิ้น
ทว่าประเด็นที่จัดว่าร้อนฉ่าที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่การช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายควบคุมอยู่และเรียกชื่อว่าเซงกากุ ขณะที่จีนก็อ้างสิทธิ์ครอบครองอย่างไม่ละลดและเรียกชื่อว่าเตี้ยวอี๋ว์