นายพิชิต ภัทรวิมลพร ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า เศรษฐกิจของภาคอีสาน 3 ไตรมาสแรกของปี ยังคงชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะภาคการลงทุนและการเกษตร ที่ยังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการใช้จ่ายของภาคราชการสำหรับการเป็นทุนก่อสร้าง ก็ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกันทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.85
นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ไตรมาส 3 ต่อเนื่อง ถึงไตรมาส 4 น่าจะขยับตัวสูงขึ้นตามอัตราการใช้จ่ายของปีงบประมาณประจำปี ขณะที่ ภาคการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการเกษตร เริ่มที่จะสามารถเก็บผลผลิตได้ และธนาคารพาณิชย์ยังคงมีเงินฝากคงค้างมากถึง 595 พันล้านบาท ทำให้สินเชื่อภาคการลงทุนยังคงเป็นสิ่งที่จะกระตุ้นธุรกิจในภาคอีสานได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ไตรมาส 3 ต่อเนื่อง ถึงไตรมาส 4 น่าจะขยับตัวสูงขึ้นตามอัตราการใช้จ่ายของปีงบประมาณประจำปี ขณะที่ ภาคการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและการเกษตร เริ่มที่จะสามารถเก็บผลผลิตได้ และธนาคารพาณิชย์ยังคงมีเงินฝากคงค้างมากถึง 595 พันล้านบาท ทำให้สินเชื่อภาคการลงทุนยังคงเป็นสิ่งที่จะกระตุ้นธุรกิจในภาคอีสานได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
