เจ้าหน้าที่จาก 15 หน่วยงาน ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และฟื้นฟูกรณีการรั่วไหลของน้ำมันดิบ จากท่อส่งของเรือบรรทุกน้ำมัน ที่จะส่งน้ำมันดิบเข้าสู่ระบบท่อหลักของ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เข้าประชุมร่วมกัน เพื่อหารือและวางขอบเขตการทำงาน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า บริษัทพีทีทีฯ ทำหนังสือแจ้งขอขยายเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงยังไม่ได้ส่งรายงานการตรวจสอบเข้ามา โดยดีเอสไอได้ตั้งชุดพนักงานสืบสวนตรวจสอบสาเหตุความเสียหาย และสร้างความเสียหายอย่างไรบ้าง รวมถึงให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมถึงทำรายงานชี้แจง เพื่อนำข้อมูลบูรณาการร่วมกัน และถ้าหากหน่วยงานใดที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาพร้อมกันด้วย
นอกจากนี้ นายธาริต เปิดเผยว่า กรณีนี้เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคดีพิเศษ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ และมีแนวโน้มว่า จะสามารถรับได้ทันที แต่ต้องรอข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัทพีทีทีฯ ก่อน เพื่อจะนำใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลหลัก ใช้ในการสอบสวน และจะส่งรายงานต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำไปเทียบเคียงกับผลการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงานเองด้วย
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า บริษัทพีทีทีฯ ทำหนังสือแจ้งขอขยายเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงยังไม่ได้ส่งรายงานการตรวจสอบเข้ามา โดยดีเอสไอได้ตั้งชุดพนักงานสืบสวนตรวจสอบสาเหตุความเสียหาย และสร้างความเสียหายอย่างไรบ้าง รวมถึงให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมถึงทำรายงานชี้แจง เพื่อนำข้อมูลบูรณาการร่วมกัน และถ้าหากหน่วยงานใดที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาพร้อมกันด้วย
นอกจากนี้ นายธาริต เปิดเผยว่า กรณีนี้เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคดีพิเศษ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ และมีแนวโน้มว่า จะสามารถรับได้ทันที แต่ต้องรอข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากบริษัทพีทีทีฯ ก่อน เพื่อจะนำใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลหลัก ใช้ในการสอบสวน และจะส่งรายงานต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำไปเทียบเคียงกับผลการตรวจสอบของแต่ละหน่วยงานเองด้วย
