นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา "มูฟวิ่ง ฟอร์เวิร์ด 2 ล้านล้าน ขับเคลื่อนไทยทัดเทียมโลก" ว่า ขณะนี้การส่งออกไม่สามารถเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เหมือนในอดีต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ดังนั้น ภาครัฐมีความจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ และมองว่าถ้าการลงทุนเกิดความล่าช้าก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่จะยังไม่กระทบกับระดับหนี้สาธารณะ เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาทยังไม่ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบ และสามารถดำเนินการได้ตามกรอบการลงทุนระยะเวลา 7 ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าทำความเข้าใจกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไปพอสมควรแล้ว โดยนักลงทุนอยากให้รัฐบาลใส่ใจพร้อมกับระมัดระวังความคุ้มค่าในการลงทุนและมีระบบป้องกันการทุจริตที่อาจจะมีความเสี่ยงในกระบวนการต่างๆ ด้วย
ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ มั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบ และสามารถดำเนินการได้ตามกรอบการลงทุนระยะเวลา 7 ปี ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าทำความเข้าใจกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไปพอสมควรแล้ว โดยนักลงทุนอยากให้รัฐบาลใส่ใจพร้อมกับระมัดระวังความคุ้มค่าในการลงทุนและมีระบบป้องกันการทุจริตที่อาจจะมีความเสี่ยงในกระบวนการต่างๆ ด้วย