สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า (GISTDA) ได้ภาพถ่ายผ่านดาวเทียม ซึ่งบันทึกภาพในช่วง 12 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุน้ำมันดิบกว่า 50,000 ลิตร ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด รั่วไหลออกจากท่อส่งน้ำมันดิบลงสู่ทะเล ห่างจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการจิสด้า อธิบายว่าคราบน้ำมันลอยห่างจากจุดเกิดเหตุแล้ว 10 กิโลเมตร มีรัศมีคราบน้ำมันกว้าง 2 กิโลเมตร เป็นขนาดใหญ่เทียบเท่ากับเสม็ด และมีทิศทางพุ่งไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่ฝั่ง จ.ระยอง บริเวณหาดแม่รำพึง เขาแหลมหญ้า โดยหากไม่มีการจัดการอย่างทันท่วงที คราบน้ำมันจะถึงฝั่งช่วงเช้าวันนี้
ตลอดเมื่อวานนี้ กองทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเฮลิคอปเตอร์ พร้อมเรือรบ เร่งสกัดกั้นและกำจัดคราบน้ำมัน ขณะที่บริษัท พีทีที โกลบอลฯ ออกแถลงการณ์จะเร่งขจัดคราบน้ำมันให้เร็วที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้นายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันดิบได้ แต่ต้องเร่งสกัดไม่ให้คราบน้ำมันเข้ามายังชายฝั่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมและการท่องเที่ยว
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการจิสด้า อธิบายว่าคราบน้ำมันลอยห่างจากจุดเกิดเหตุแล้ว 10 กิโลเมตร มีรัศมีคราบน้ำมันกว้าง 2 กิโลเมตร เป็นขนาดใหญ่เทียบเท่ากับเสม็ด และมีทิศทางพุ่งไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่ฝั่ง จ.ระยอง บริเวณหาดแม่รำพึง เขาแหลมหญ้า โดยหากไม่มีการจัดการอย่างทันท่วงที คราบน้ำมันจะถึงฝั่งช่วงเช้าวันนี้
ตลอดเมื่อวานนี้ กองทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเฮลิคอปเตอร์ พร้อมเรือรบ เร่งสกัดกั้นและกำจัดคราบน้ำมัน ขณะที่บริษัท พีทีที โกลบอลฯ ออกแถลงการณ์จะเร่งขจัดคราบน้ำมันให้เร็วที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้นายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันดิบได้ แต่ต้องเร่งสกัดไม่ให้คราบน้ำมันเข้ามายังชายฝั่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมและการท่องเที่ยว