อัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 3 เลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีที่ผู้ร่วมชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. รวม 127 คน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จากกรณีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเมื่อวันที่ 24 พฤษจิกายน 2555 ออกไปเป็นวันที่ 5 กันยายนนี้ เนื่องจากสำนวนคดียังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งก่อนหน้าอัยการเลื่อนฟังคำสั่งมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยให้เหตุผลเช่นเดียวกัน
สำหรับคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนสรุปความเห็นส่งสำนวนให้อัยการตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2555 โดยเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 127 คน และมีการแยกดำเนินคดีเป็น 3 จำนวน ทั้งการชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกมิสกวัน
ขณะที่องค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งมี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เป็นประธาน ได้นัดหารือเพื่อกำหนดท่าทีการ ชุมนุมเคลื่อนไหวในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ และจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่าย เบื้องต้น พล.ร.อ.ชัย ระบุว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่จะดูตามสถานการณ์ ซึ่งอาจจะชุมนุมต่อเนื่องไปถึงวัดเปิดสภาฯ ในการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ เพราะเห็นว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นการทำเพื่อบุคคลมากกว่าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ขณะที่อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่สามารถออกมาแสดงความคิดเห็นได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนกลุ่มที่จะออกมาชุมนุมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหน้าเดิมที่ต้องการล้มรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นข้อเรียกร้องเดิมที่เคยเรียกร้องในการชุมนุมครั้งที่แล้ว ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุม คงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงในการดูแล
สำหรับคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนสรุปความเห็นส่งสำนวนให้อัยการตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2555 โดยเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 127 คน และมีการแยกดำเนินคดีเป็น 3 จำนวน ทั้งการชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกมิสกวัน
ขณะที่องค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งมี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เป็นประธาน ได้นัดหารือเพื่อกำหนดท่าทีการ ชุมนุมเคลื่อนไหวในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ และจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่าย เบื้องต้น พล.ร.อ.ชัย ระบุว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่จะดูตามสถานการณ์ ซึ่งอาจจะชุมนุมต่อเนื่องไปถึงวัดเปิดสภาฯ ในการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ เพราะเห็นว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นการทำเพื่อบุคคลมากกว่าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ขณะที่อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่สามารถออกมาแสดงความคิดเห็นได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนกลุ่มที่จะออกมาชุมนุมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหน้าเดิมที่ต้องการล้มรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นข้อเรียกร้องเดิมที่เคยเรียกร้องในการชุมนุมครั้งที่แล้ว ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุม คงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงในการดูแล