นายสุชาติ ใจสุด ผู้ต้องขังโทษประหารชีวิต คดีค้ายาเสพติด (เฮโรอีน) ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี เพื่อร่วมกันไต่สวนคำร้องขอรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาคดีใหม่ โดยเมื่อถึงเวลานัดหมาย อัยการโจทก์ได้นำใบรับรองแพทย์ยื่นต่อศาลว่า พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนมีอาการเจ็บหน้าอก และแพทย์ได้วินิจฉัยว่า ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงขอเลื่อนการไต่สวนออกไปก่อน ศาลได้สอบถามผู้ร้อง และทนายความแล้วไม่คัดค้าน แต่ขอให้สำนักงานอัยการจัดพนักงานอัยการมาทำการไต่สวนแทนในนัดหน้า ถ้าหากพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนไม่สามารถมาได้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีเหตุสมควรจึงให้เลื่อนการไต่สวนคำร้องขอรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาออกไป เป็นวันที่ 5 กันยายน 2556 เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีนี้ นายสุชาติ ถูกดำเนินคดีสมคบกับพวก ในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาคดียาเสพติดในขณะนั้น มีการซัดทอดว่า นายสุชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ในที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตนายสุชาติ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 และต่อมานางนิรมล ใจสุด ภรรยาของนายสุชาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จนมีการสอบพยาน และหลักฐานว่า นายสุชาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหลายประเด็น
สำหรับคดีนี้ นายสุชาติ ถูกดำเนินคดีสมคบกับพวก ในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งผู้ต้องหาคดียาเสพติดในขณะนั้น มีการซัดทอดว่า นายสุชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี และได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ในที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตนายสุชาติ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 และต่อมานางนิรมล ใจสุด ภรรยาของนายสุชาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จนมีการสอบพยาน และหลักฐานว่า นายสุชาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหลายประเด็น