สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ว่า ทางการสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปอียิปต์ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทูตระดับล่างเดินทางกลับประเทศ หลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลไคโรทวีความรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชาวอเมริกัน
นายแพทริค เวนเทรล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงถึงการได้รับรายงานชายชาวอเมริกัน วัย 21 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วัฒนธรรมในเมืองอเล็กซานเดรีย ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะพยายามบันทึกภาพกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผาทำลายที่ทำการกลุ่มมุสลิมภราดรภาพ ที่เป็นองค์กรการเมืองของรัฐบาล สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ชุมนุมในอียิปต์มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลวอชิงตันจึงเร่งติดต่อสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงไคโร เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบงานสำคัญของสถานทูตเดินทางกลับประเทศทันที อย่างไรก็ตาม สถานทูตยังคงเกิดดำเนินการตามปกติ พร้อมกับประกาศเตือนการเดินทางสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางเยือนอียิปต์ ถ้าเป็นไปได้ควรยกเลิกกำหนดการ
ทั้งนี้ นอกจากชายอเมริกันแล้ว ยังมีชาวอียิปต์อีก 2 คน เสียชีวิตในเหตุรุนแรงที่เมืองอเล็กซานเดรีย และเมืองพอร์ต ซาอิด ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีมุฮัมมัด มุร์ซี ขยายวงกว้างไปเกือบทั่วประเทศแล้ว
นายแพทริค เวนเทรล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงถึงการได้รับรายงานชายชาวอเมริกัน วัย 21 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วัฒนธรรมในเมืองอเล็กซานเดรีย ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะพยายามบันทึกภาพกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผาทำลายที่ทำการกลุ่มมุสลิมภราดรภาพ ที่เป็นองค์กรการเมืองของรัฐบาล สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์ชุมนุมในอียิปต์มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลวอชิงตันจึงเร่งติดต่อสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงไคโร เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ต้องรับผิดชอบงานสำคัญของสถานทูตเดินทางกลับประเทศทันที อย่างไรก็ตาม สถานทูตยังคงเกิดดำเนินการตามปกติ พร้อมกับประกาศเตือนการเดินทางสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางเยือนอียิปต์ ถ้าเป็นไปได้ควรยกเลิกกำหนดการ
ทั้งนี้ นอกจากชายอเมริกันแล้ว ยังมีชาวอียิปต์อีก 2 คน เสียชีวิตในเหตุรุนแรงที่เมืองอเล็กซานเดรีย และเมืองพอร์ต ซาอิด ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีมุฮัมมัด มุร์ซี ขยายวงกว้างไปเกือบทั่วประเทศแล้ว