กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ระบุถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล หลังจากได้ย้ายฐานการทำฝนเทียมมาอยู่ที่ลุ่มน้ำปิง และเหนือเขื่อนภูมิพล โดยระบุว่า 11 วันที่ผ่านมา ได้ส่งเครื่องบินบินทำฝนเทียม 32 เที่ยว ปรากฏว่ามีฝนตก 10 วัน ได้ปริมาณน้ำเข้าเขื่อน 19 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ยังถือว่าวิกฤต เพราะช่วงที่ผ่านมาปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลน้อยที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งทุกวันจะมีน้ำที่ต้องปล่อย เพื่อหมุนเวียนการสร้างระบบไฟฟ้า และชลประทานท้ายเขื่อน 19.28 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเพียง 2.88 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ถ้าไม่เร่งทำฝนหลวงเหนือเขื่อนภูมิพลน้ำจะขาดแคลนสำหรับการเพาะปลูกที่จะมาถึงแน่นอน โดยปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพลขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียงร้อยละ 32 ของความจุอ่าง ซึ่งกรมฝนหลวงฯ มีเป้าหมายจะเติมน้ำให้เขื่อนภูมิพลให้ได้ถึงร้อยละ 80 เพื่อรองรับสถานการณ์หน้าแล้งในปีหน้า
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ถ้าไม่เร่งทำฝนหลวงเหนือเขื่อนภูมิพลน้ำจะขาดแคลนสำหรับการเพาะปลูกที่จะมาถึงแน่นอน โดยปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพลขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียงร้อยละ 32 ของความจุอ่าง ซึ่งกรมฝนหลวงฯ มีเป้าหมายจะเติมน้ำให้เขื่อนภูมิพลให้ได้ถึงร้อยละ 80 เพื่อรองรับสถานการณ์หน้าแล้งในปีหน้า