นายฐากร ตันทสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. เห็นชอบร่างประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือ สัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่.... ซึ่งเป็นร่างประกาศป้องกันไม่ให้มีปัญหาซิมดับกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการมือถือระบบเซลลูลา 1800 ประมาณ 18 ล้านราย เนื่องจากปัจจุบัน บมจ.กสท โทรคมนาคมให้สัมปทานกับบริษัท ทรูมูฟ และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (เอไอเอส) กำหนดสิ้นสุดหมดสัญญาสัมปทาน วันที่ 15 กันยายน 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติ 7 ต่อ 2 โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างประกาศ เพื่อให้ กสท ว่าจ้าง ทรูมูฟ และเอไอเอส ให้บริการระยะเวลา 1 ปีจนกว่าจะเปิดประมูลหาผู้มาให้บริการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และยังต้องคงสิทธิ์
ทั้งนี้เพื่อดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการอื่น ในการประชาสัมพันธ์ผู้ใช้บริการเร่งรัดการโอนใช้หมายเลข เพื่อไปใช้บริการกับผู้ให้บริการรายอื่น หรือใช้ช่องทางการโอนย้ายสำหรับการคงสิทธิ์เบอร์เดิม
นายฐากร กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ กสทช.จะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับรายได้การให้บริการจะถูกส่งไปยังหน่วยงานใดระหว่าง กสทช. กับรัฐบาล โดย กสท เพราะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท เมื่อได้ข้อสรุปจะนำกลับมาเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.อีกครั้งประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้ทันก่อนสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลง เนื่องจาก กสทช.จะต้องเร่งดำเนินการไม่อย่างนั้น จะถูกฟ้องข้อหายกเว้นปฏิบัติหน้าที่ทำให้ซิมดับ
นอกจากนี้ กสทช.ยังต้องรอฟังมติคณะรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ยืนยันมาโดยตลอดว่า เป็นการขยายอายุสัมปทานให้กับผู้ประกอบการรายเดิม เนื่องจากขั้นตอนการประมูลยังไม่มีความพร้อม ดังนั้นหากมติคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างไรจะมีการประชุมบอร์ด กสทช.นัดพิเศษ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติ 7 ต่อ 2 โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างประกาศ เพื่อให้ กสท ว่าจ้าง ทรูมูฟ และเอไอเอส ให้บริการระยะเวลา 1 ปีจนกว่าจะเปิดประมูลหาผู้มาให้บริการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และยังต้องคงสิทธิ์
ทั้งนี้เพื่อดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการอื่น ในการประชาสัมพันธ์ผู้ใช้บริการเร่งรัดการโอนใช้หมายเลข เพื่อไปใช้บริการกับผู้ให้บริการรายอื่น หรือใช้ช่องทางการโอนย้ายสำหรับการคงสิทธิ์เบอร์เดิม
นายฐากร กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ กสทช.จะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับรายได้การให้บริการจะถูกส่งไปยังหน่วยงานใดระหว่าง กสทช. กับรัฐบาล โดย กสท เพราะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท เมื่อได้ข้อสรุปจะนำกลับมาเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.อีกครั้งประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้ทันก่อนสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลง เนื่องจาก กสทช.จะต้องเร่งดำเนินการไม่อย่างนั้น จะถูกฟ้องข้อหายกเว้นปฏิบัติหน้าที่ทำให้ซิมดับ
นอกจากนี้ กสทช.ยังต้องรอฟังมติคณะรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ยืนยันมาโดยตลอดว่า เป็นการขยายอายุสัมปทานให้กับผู้ประกอบการรายเดิม เนื่องจากขั้นตอนการประมูลยังไม่มีความพร้อม ดังนั้นหากมติคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างไรจะมีการประชุมบอร์ด กสทช.นัดพิเศษ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว