นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2556 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 111,848 คัน ลดลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 52,734 คัน ลดลง 5.8 เปอร์เซ็นต์ รถเพื่อการพาณิชย์ 59,114 คัน ลดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนต์นี้ จำนวน 49,664 คัน ลดลง 4.8 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม มีปริมาณการขาย 111,848 คัน ลดลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เป็นผลจากการที่ลูกค้าที่จองรถยนต์ เพื่อใช้สิทธิรถยนต์คันแรกส่วนใหญ่ได้ทยอยรับรถเรียบร้อยแล้ว โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 52,734 คัน ลดลง 5.8 เปอร์เซ็นต์ ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 59,114 คัน ลดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนยอดสะสม 5 เดือน มีปริมาณการขาย 634,777 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายสะสม 5 เดือนแรก ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 31.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 53.4 เปอร์เซ็นต์ ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 16.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบยอดค้างจองรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่เริ่มตั้งแต่ในช่วงต้นปี
สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่จองรถยนต์ เพื่อใช้สิทธิรถยนต์คันแรกตั้งแต่ปีที่ผ่านมาได้ทยอยรับรถเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเป็นการที่ตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม มีปริมาณการขาย 111,848 คัน ลดลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เป็นผลจากการที่ลูกค้าที่จองรถยนต์ เพื่อใช้สิทธิรถยนต์คันแรกส่วนใหญ่ได้ทยอยรับรถเรียบร้อยแล้ว โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 52,734 คัน ลดลง 5.8 เปอร์เซ็นต์ ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 59,114 คัน ลดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์
ส่วนยอดสะสม 5 เดือน มีปริมาณการขาย 634,777 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายสะสม 5 เดือนแรก ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 31.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 53.4 เปอร์เซ็นต์ ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 16.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบยอดค้างจองรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่เริ่มตั้งแต่ในช่วงต้นปี
สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่จองรถยนต์ เพื่อใช้สิทธิรถยนต์คันแรกตั้งแต่ปีที่ผ่านมาได้ทยอยรับรถเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเป็นการที่ตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่แล้ว