นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร กล่าวว่า กำลังพูดคุยกับครอบครัวของนายเอกยุทธ ถึงข้อสรุปว่า จะให้เดินหน้าทำคดีนี้หรือไม่ เพราะในส่วนพี่สาว น้องสาว และภรรยาของนายเอกยุทธ ยังคงรู้สึกหวาดกลัว จึงไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก ขณะที่พี่ชาย และลูกชายยังมีข้อสงสัยหลายประการ อยากให้คลี่คลาย และไม่เชื่อว่านายเอกยุทธ ถูกฆ่าเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) จะได้ความชัดเจน แต่หากญาติลงมติให้คดีจบเพียงเท่านี้ ก็พร้อมยุติการทำหน้าที่ หรือหากจะให้ดำเนินการต่อ ตนก็พร้อม โดยจะทำหนังสือส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สืบสวนขยายผลในประเด็นที่ยังสงสัย คือคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ มี 2 คนจริงหรือไม่ ให้เร่งติดตามโทรศัพท์ของนายสันติภาพ เพ็งด้วง อีกเครื่องที่ยังหาไม่พบ ซึ่งใช้ติดต่อกับบุคคลที่ 3 ที่เชื่อว่าเป็นคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง เร่งติดตามเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในบ้านนายเอกยุทธ ทรัพย์สินที่สูญหายไป ทั้งนาฬิกา สร้อยทองคำ และพระสมเด็จถูกนำไปขายที่ไหน และขอให้ติดตามกลับคืนมา และขอให้ติดตามเสื้อผ้าของนายเอกยุทธ เพราะว่าพยานหลักฐานดังกล่าวจะเป็นเบาะแสสำคัญในการคลี่คลายข้อสงสัยต่อไป