ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้องนายอนุพงศ์ พันธชยางกูร อดีตกำนัน ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา โดยรู้ว่าไม่มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น
กรณี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550 นายอนุพงศ์ เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2547 ตนกับพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นอาวุธปืน ได้ถูก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ พร้อมตำรวจ ทำร้ายร่างกาย ระหว่างควบคุมตัวโดยเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จาก สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส มาสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม
ทั้งนี้ ดีเอสไอ ได้สอบสวนและส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ต่อมา ป.ป.ช.ได้ชี้ว่า พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กับพวกรวม 19 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ จึงได้ยื่นฟ้องนายอนุพงศ์ เพราะเห็นว่าการกระทำของจำเลยล้วนเป็นความเท็จ เพื่อเจตนากลั่นแกล้งให้ตนต้องรับโทษทางอาญา เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยด้วย ทั้งนี้ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา วันนี้ เวลา 09.00 น.
กรณี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550 นายอนุพงศ์ เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2547 ตนกับพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นอาวุธปืน ได้ถูก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ พร้อมตำรวจ ทำร้ายร่างกาย ระหว่างควบคุมตัวโดยเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จาก สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส มาสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม
ทั้งนี้ ดีเอสไอ ได้สอบสวนและส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ต่อมา ป.ป.ช.ได้ชี้ว่า พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กับพวกรวม 19 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ จึงได้ยื่นฟ้องนายอนุพงศ์ เพราะเห็นว่าการกระทำของจำเลยล้วนเป็นความเท็จ เพื่อเจตนากลั่นแกล้งให้ตนต้องรับโทษทางอาญา เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยด้วย ทั้งนี้ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา วันนี้ เวลา 09.00 น.