นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะเรื่องราคาไข่ ว่า ในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ทำทุกวิธีทางเพื่อแก้ปัญหานี้ แต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกประชุมและมีข้อสรุปว่าไข่ราคา 3.20 บาทนั้น ราคาแพงเกินไป โดยมีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยกำหนดเพดานราคาไว้ 3.30 บาท ซึ่งส่วนตัวเพิ่งเคยเห็นว่า การแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง โดยการไปประกาศให้เพดานราคาแพงขึ้น เพื่อเปิดช่องให้ขึ้นราคานั้น สุดท้ายราคาไข่จะดีดตัวตามราคาเพดานสูงสุด และราคานี้เป็นราคาไข่คละที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย นี่คือการขาดประสบการณ์และความรู้ในการบริหารบ้านเมือง
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า นายณัฐวุฒิให้สัมภาณ์ช่วงนี้เพราะอากาศร้อน ปริมาณไข่จึงออกมาน้อยลง ราคาจึงแพงขึ้น นั่นคือข้อแก้ตัวของนายณัฐวุฒิ แต่หากไปดูมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมติเงิน 131 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดด้วยการซื้อ เพื่อนำไข่ออกจากระบบประมาณ 195 ล้านฟอง ทั่วประเทศ มีคำสั่งนาน 6 เดือน ดังนั้น ที่ผ่านมา ยังไม่ถึง 3 เดือน ที่ไข่ขาดตลาด ไม่ใช่เพราะอากาศร้อน แต่เป็นเพราะคณะรัฐมนตรีดึงไข่ออกจากระบบ เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้นทั้งสิ้น สุดท้ายพอราคาไข่แพงขึ้นก็ตามมาแก้กันจ้าละหวั่น
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า นายณัฐวุฒิให้สัมภาณ์ช่วงนี้เพราะอากาศร้อน ปริมาณไข่จึงออกมาน้อยลง ราคาจึงแพงขึ้น นั่นคือข้อแก้ตัวของนายณัฐวุฒิ แต่หากไปดูมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมติเงิน 131 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดด้วยการซื้อ เพื่อนำไข่ออกจากระบบประมาณ 195 ล้านฟอง ทั่วประเทศ มีคำสั่งนาน 6 เดือน ดังนั้น ที่ผ่านมา ยังไม่ถึง 3 เดือน ที่ไข่ขาดตลาด ไม่ใช่เพราะอากาศร้อน แต่เป็นเพราะคณะรัฐมนตรีดึงไข่ออกจากระบบ เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้นทั้งสิ้น สุดท้ายพอราคาไข่แพงขึ้นก็ตามมาแก้กันจ้าละหวั่น
