เอกชนจี้รัฐแจงไฟฟ้าดับ-ออกมาตรการป้องกันเหตุซ้ำรอย

นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีไฟฟ้าใน 14 จังหวัดภาคใต้ดับเมื่อคืนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลักหมื่นล้านบาท เนื่องจากมีอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น การแปรรูปผลไม้กระป๋อง อุตสาหกรรมประมง ที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่อง ห้องเย็น รวมถึงอุตสาหกรรมยางพารา ส่วนธุรกิจแช่เยือกแข็งจะมีความเย็นอยู่ได้ หลังจากไฟดับประมาณ 7-10 ชั่วโมง แม้ว่าเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย แต่ในระยะยาวหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าทั้งหมด เพราะสินค้าจะเน่าเสีย ซึ่งส่วนใหญ่โรงแช่เย็นต่างๆ จะอยู่ในภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา ตรัง และ จ.สตูล จึงเห็นว่าภาครัฐจะต้องเร่งชี้แจง พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในส่วนของ จ.ภูเก็ต และพังงา ซึ่งถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวใหญ่เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดไฟดับประมาณ 1-2 ชั่วโมง เลยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ขอให้รัฐบาลดูแลไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับขึ้นอีก เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว
ขณะที่สนามบินหาดใหญ่ และภูเก็ต บริษัทท่าอากาศยานไทย ระบุว่า ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีไฟฟ้าสำรองในการทำงานทันทีตั้งแต่ไฟฟ้าเริ่มดับ ทำให้ระบบควบคุมการบิน ระบบไฟฟ้าส่องสว่างไฟในอาคารผู้โดยสาร และระบบไฟฟ้าส่องสว่างทั้งหมดยังใช้งานได้ตามปกติ เบื้องต้นทั้ง 2 สนามบินสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ได้ 24 ชั่วโมง หลังไฟดับ แต่เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยเรื่องของการบิน สั่งให้สำรองไฟเพิ่มเติม และเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาแล้ว