พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการก่อเหตุอาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืน ว่า จากการสำรวจคดีอาชญากรรมในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุค่อนข้างสูง โดยอาวุธปืนที่ยึดได้จากการกระทำผิด ทั้งแบบมีการจดทะเบียน และไม่มีการจดทะเบียนรวม 47,630 กระบอก และเชื่อว่า มีการซุกซ่อนปืนเพื่อใช้ในการกระทำผิดอีก ฉะนั้น ตำรวจจึงได้ออกมาตรการกวาดล้าง เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งจะติดตามสอบสวนกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเด็กแว้น ที่มีแนวโน้มก่อเหตุ กลุ่มบุคคลที่เพิ่งพ้นโทษจำคุก กลุ่มบุคคลที่ปล่อยเงินกู้ พร้อมเก็บรวบรวมเป็นข้อมูล ก่อนจะนำมาวิเคราะห์ทำเป็นสถิติ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกวาดล้างครั้งต่อไป
นอกจากนี้ จะนำปืนที่ยึดได้ทั้งหมดมาพิสูจน์หัวกระสุนกับคดีต่างๆ ที่ผ่านมา ก่อนจะนำไปทำลายที่กองบังคับการปราบปราม ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับเด็กและเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีข้อหากระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนนั้น ทางตำรวจจะสั่งดำเนินคดีกับพ่อแม่ของเยาวชนเหล่านั้น ตาม พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ จะนำปืนที่ยึดได้ทั้งหมดมาพิสูจน์หัวกระสุนกับคดีต่างๆ ที่ผ่านมา ก่อนจะนำไปทำลายที่กองบังคับการปราบปราม ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับเด็กและเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีข้อหากระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนนั้น ทางตำรวจจะสั่งดำเนินคดีกับพ่อแม่ของเยาวชนเหล่านั้น ตาม พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน