นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขณะนี้ เชื่อว่าสิ้นปีนี้จะเห็นค่าเงินบาทแข็งค่าแตะ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทที่มีการปรับตัวจะสามารถอยู่รอดได้ในค่าเงินระดับกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา ทางหอการค้าได้มีการเตือนผู้ประกอบการให้มีการปรับตัวมาก่อนหน้านี้ เพื่อรองรับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และมีแนวโน้มผันผวน ซึ่งเห็นได้จากหลายบริษัทในกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ ทั้งการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท และเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้กำไรภาคอุตสาหกรรมลดลง โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นร้อยละ 3 มีผลทำให้กำไรลดลงถึงร้อยละ 3-5 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีกำไรเพียงเท่าทุน หรืออาจจะขาดทุนได้ สำหรับสินค้าอาหารที่มีอำนาจต่อรองกับคู่ค้า โดยอาจปรับราคาขึ้นได้ เช่น ทูน่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตเพื่อส่งออกมากที่สุด แต่การซื้อขายจะเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากผู้ซื้อสามารถที่จะหันไปซื้อกับผู้ส่งออกรายอื่น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ ทั้งการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท และเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้กำไรภาคอุตสาหกรรมลดลง โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นร้อยละ 3 มีผลทำให้กำไรลดลงถึงร้อยละ 3-5 ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีกำไรเพียงเท่าทุน หรืออาจจะขาดทุนได้ สำหรับสินค้าอาหารที่มีอำนาจต่อรองกับคู่ค้า โดยอาจปรับราคาขึ้นได้ เช่น ทูน่า เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตเพื่อส่งออกมากที่สุด แต่การซื้อขายจะเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากผู้ซื้อสามารถที่จะหันไปซื้อกับผู้ส่งออกรายอื่น
