น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกรัฐมนตรีและคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อติดตามและสอบถามสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่ยังมีความผันผวนต่อเนื่อง แม้วันนี้เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่าลงอยู่ที่ระดับ 28.81-28.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าลงหลังจากเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ แต่เปิดตลาดเช้านี้ เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 28.80-28.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยหลายฝ่ายยังมีความกังวลว่า เงินบาทจะแข็งค่าผันผวนอีกระยะหนึ่ง ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ ซึ่งเกรงว่าเงินบาทจะแข็งค่าแตะระดับที่ 27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงมาก จึงกำชับให้หน่วยงานด้านการเงินการคลังทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ส่งออก โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์ราคาทองคำที่ยังผันผวนอยู่เช่นกัน โดยเปิดทำการวันนี้ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 150 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งมีราคาอยู่ที่บาทละ 19,500 รับซื้ออยู่ที่บาทละ 19,400 บาท ส่วนทองรูปพรรณราคาขายอยู่ที่บาทละ 19,900 บาท รับซื้ออยู่ที่ 19,116.76 บาท รวมทั้งติดตามสถานการณ์ราคายางราพาตกตามจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกยางพารา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์ราคาทองคำที่ยังผันผวนอยู่เช่นกัน โดยเปิดทำการวันนี้ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 150 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งมีราคาอยู่ที่บาทละ 19,500 รับซื้ออยู่ที่บาทละ 19,400 บาท ส่วนทองรูปพรรณราคาขายอยู่ที่บาทละ 19,900 บาท รับซื้ออยู่ที่ 19,116.76 บาท รวมทั้งติดตามสถานการณ์ราคายางราพาตกตามจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกยางพารา
