นายศิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ กล่าวถึงกรณีการแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกของฝ่ายไทยและกัมพูชา คดีเขาพระวิหาร ว่า ประชาชนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ พอใจกับทีมรัฐบาลที่ไปให้การต่อศาลโลก ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ทำดีที่สุดแล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
ในส่วนของการค้าชายแดน กับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติเดิมตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการค้าขายโดยผ่านพิธีศุลกากรตามด่านช่องสะงำ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมูลค่าการส่งออกกว่าพันล้านบาท ถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าพอใจ ส่วนในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ จากปีละประมาณ 200-300 ล้านบาท จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการค้าชายแดน กับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติเดิมตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการค้าขายโดยผ่านพิธีศุลกากรตามด่านช่องสะงำ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมูลค่าการส่งออกกว่าพันล้านบาท ถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าพอใจ ส่วนในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ จากปีละประมาณ 200-300 ล้านบาท จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
