สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดระเบิดขึ้น 3 ครั้ง ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ โดย 2 ลูก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น.ตามเวลาในไทย บริเวณเส้นชัยของการแข่งขัน "บอสตัน มาราธอน" รายการแข่งขันที่เก่าแก่ของสหรัฐฯ และเวลาประมาณ 04.00 น.เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 จุด ที่ห้องสมุดประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 141 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 17 ราย จำเป็นต้องตัดอวัยวะบางส่วนที่ถูกสะเก็ดระเบิดทิ้ง
หน่วยข่าวกรองสหรัฐ รายงานว่า พบระเบิดอีกหลายจุดแต่ยังไม่จุดชนวน ทั้งนี้ ทำให้ทั้งผู้ชม เจ้าหน้าที่และนักกีฬา ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวไปรักษาเบื้องต้นที่เต็นท์ปฐมพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งสัญญาณให้นักวิ่งอื่นๆ ที่ตามหลังมา หลีกเลี่ยงวิ่งไปในเส้นทางอื่นแทนหลังเกิดเหตุ
ประธานาธิบดีบารัฏ โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และได้สั่งให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุและผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจในลอสแองเจลิส นครนิวยอร์ก กรุงวอชิงตัน กรุงลอนดอน และเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ต่างเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญๆ ภายในเมือง ทั้งสถานีขนส่ง โรงเรียน อาคารที่ทำการรัฐบาล และตามโรงแรมต่างๆ
ทำเนียบขาว ระบุว่า แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และใครเป็นผู้ลงมือ แต่จะปฏิบัติต่อสถานการณ์นี้เหมือนกับการรับมือกับการก่อการร้าย
หน่วยข่าวกรองสหรัฐ รายงานว่า พบระเบิดอีกหลายจุดแต่ยังไม่จุดชนวน ทั้งนี้ ทำให้ทั้งผู้ชม เจ้าหน้าที่และนักกีฬา ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวไปรักษาเบื้องต้นที่เต็นท์ปฐมพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งสัญญาณให้นักวิ่งอื่นๆ ที่ตามหลังมา หลีกเลี่ยงวิ่งไปในเส้นทางอื่นแทนหลังเกิดเหตุ
ประธานาธิบดีบารัฏ โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และได้สั่งให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุและผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจในลอสแองเจลิส นครนิวยอร์ก กรุงวอชิงตัน กรุงลอนดอน และเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ต่างเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญๆ ภายในเมือง ทั้งสถานีขนส่ง โรงเรียน อาคารที่ทำการรัฐบาล และตามโรงแรมต่างๆ
ทำเนียบขาว ระบุว่า แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และใครเป็นผู้ลงมือ แต่จะปฏิบัติต่อสถานการณ์นี้เหมือนกับการรับมือกับการก่อการร้าย