นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ (ผอ.กต.เชียงใหม่) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นคำร้องขอให้ กกต.เชียงใหม่ ตรวจสอบการทุจริตในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเห็นว่าจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 3 มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามากเกินปกติ ซึ่งจำนวนผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้งครั้งก่อนมีเพียง 490 คน แต่ในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา กลับมีผู้มาลงทะเบียนถึง 9 พันกว่าคน โดยคำร้องยังระบุว่า สาเหตุนี้ที่มีคนมาลงทะเบียนมาก สืบเนื่องจากนายอำเภอในพื้นที่เขต 3 ได้เกณฑ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า จึงเห็นว่านายอำเภอวางตัวไม่เป็นกลาง ว่า ขณะนี้ กกต.เชียงใหม่ได้รับคำร้องดังกล่าว และเริ่มดำเนินการตรวจสอบแล้ว แต่ในคำร้องได้พาดพิงถึงบุคคลผู้ถูกร้องจำนวนมาก กกต.เชียงใหม่จึงต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยจะเรียกผู้ถูกร้องมาให้คำชี้แจงเพื่อหาข้อเท็จจริงก่อน แต่ก่อนอื่น กกต.เชียงใหม่จะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนคำร้องที่ได้รับมาว่ามีมูลหรือไม่ เมื่อมติแล้วก็จะส่งคำร้องไปให้กกต.กลางพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่มีผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากกว่าครั้งก่อนนั้น อาจเป็นเพราะครั้งนี้ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเดินทางกลับมายังภูมิลำเนา แต่ผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เมษายน ได้มาใช้สิทธิลงเพียง 5 พันกว่าคน ซึ่งเกินครึ่งจากที่ลงทะเบียนไว้เพียงเล็กน้อย ทางกกต.เชียงใหม่คาดว่าอีก 4 พันกว่าคน ที่ไม่ใช้สิทธิ อาจเปลี่ยนใจไปใช้สิทธิลงคะแนนในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งจริงแทน สามารถกระทำได้และไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์เผยว่ามีชายชุดดำอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไปข่มขู่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จนสร้างความหวาดกลัวนั้น ในประเด็นนี้ กกต.เชียงใหม่ยังไม่เห็นคำร้องในลักษณะนี้แต่อย่างใด มีเพียงแต่คำร้องขอให้ตรวจสอบการทุจริตและข้าราชการในพื้นที่เขต 3 วางตัวไม่เป็นกลางเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่มีผู้มาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากกว่าครั้งก่อนนั้น อาจเป็นเพราะครั้งนี้ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเดินทางกลับมายังภูมิลำเนา แต่ผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เมษายน ได้มาใช้สิทธิลงเพียง 5 พันกว่าคน ซึ่งเกินครึ่งจากที่ลงทะเบียนไว้เพียงเล็กน้อย ทางกกต.เชียงใหม่คาดว่าอีก 4 พันกว่าคน ที่ไม่ใช้สิทธิ อาจเปลี่ยนใจไปใช้สิทธิลงคะแนนในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งจริงแทน สามารถกระทำได้และไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์เผยว่ามีชายชุดดำอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไปข่มขู่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จนสร้างความหวาดกลัวนั้น ในประเด็นนี้ กกต.เชียงใหม่ยังไม่เห็นคำร้องในลักษณะนี้แต่อย่างใด มีเพียงแต่คำร้องขอให้ตรวจสอบการทุจริตและข้าราชการในพื้นที่เขต 3 วางตัวไม่เป็นกลางเท่านั้น