นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 5 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทางเมียนมาร์ปิดท่อก๊าซธรรมชาติ และมีปริมาณไฟฟ้าสำรองต่ำที่สุด แต่จากความร่วมมือของภาคเอกชน ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีปริมาณสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,661 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอต่อความมั่นคงของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังไม่ผ่านช่วงวิกฤต โดยโรงงานจะกลับมาเปิดทำการในวันที่ 9-10 เมษายน จะทำให้ปริมาณการใช้ไฟเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้ามีเพียง 1,440 เมกะวัตต์ ประกอบกับช่วงนี้อากาศร้อนมาก
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงถึง 39.1 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 26,400 เมกะวัตต์ โดยทุก 1 องศาฯ จะใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 300 เมกะวัตต์ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า หากวันที่ 9-10 เมษายนนี้ อุณหภูมิเกิน 40 องศาฯ จะทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งอยากให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ประเทศชาตินั้นสามารถผ่านพ้นวิกฤตในช่วงนี้ไปได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังไม่ผ่านช่วงวิกฤต โดยโรงงานจะกลับมาเปิดทำการในวันที่ 9-10 เมษายน จะทำให้ปริมาณการใช้ไฟเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้ามีเพียง 1,440 เมกะวัตต์ ประกอบกับช่วงนี้อากาศร้อนมาก
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงถึง 39.1 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 26,400 เมกะวัตต์ โดยทุก 1 องศาฯ จะใช้ไฟฟ้าเพิ่ม 300 เมกะวัตต์ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่า หากวันที่ 9-10 เมษายนนี้ อุณหภูมิเกิน 40 องศาฯ จะทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งอยากให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ประเทศชาตินั้นสามารถผ่านพ้นวิกฤตในช่วงนี้ไปได้
