นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวก่อนขึ้นเบิกความต่อศาลอาญารัชดา กรณีดีเอสไอยื่นคำร้องให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 1 และ 4 ในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ในช่วงบ่าย ว่า การขึ้นเบิกความในวันนี้เป็นการมาให้ข้อมูลให้ครบถ้วน โดยหยิบยกประเด็นความห่วงใยของ ทางการซาอุดีอาระเบียเป็นหลัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 4 ได้ใช้เทคนิคทางกฎหมาย เรียกขอเอกสารจำนวนมากจากศาล และนำไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ซึ่งเข้าข่ายเป็นการยุ่งเหยิงและข่มขู่พยาน
ส่วนกรณีที่ทนายฝ่ายจำเลยพยายามซักค้านในประเด็นการนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากสำคัญ ออกนอกประเทศนั้น นายธาริต ยอมรับว่า ดีเอสไอพาตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย ออกนอกประเทศจริง ตามอำนาจ พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ซึ่งไม่ได้เป็นการพาหลบหนี ประกอบกับดีเอสไอไม่มีอำนาจในการจับกุม พ.ต.ท.สุวิชชัย ในคดีฆ่าผู้อื่น เนื่องจากเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ หากตำรวจมีการประสาน ก็พร้อมให้ความร่วมมือนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย กลับมาดำเนินคดีทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ทนายฝ่ายจำเลยพยายามซักค้านในประเด็นการนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากสำคัญ ออกนอกประเทศนั้น นายธาริต ยอมรับว่า ดีเอสไอพาตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย ออกนอกประเทศจริง ตามอำนาจ พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน ซึ่งไม่ได้เป็นการพาหลบหนี ประกอบกับดีเอสไอไม่มีอำนาจในการจับกุม พ.ต.ท.สุวิชชัย ในคดีฆ่าผู้อื่น เนื่องจากเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ หากตำรวจมีการประสาน ก็พร้อมให้ความร่วมมือนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย กลับมาดำเนินคดีทางกฎหมาย