นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า หากการพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เดินหน้าไปตามกระบวนการและผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในสัปดาห์หน้า ร.ฟ.ท.พร้อมเดินหน้าโครงการในความรับผิดชอบได้ทันที ทั้งการก่อสร้างรถไฟความเร็มสูงและรถไฟรางคู่ ซึ่งคาดว่า การดำเนินการหาผู้รับเหมาทั้ง 2 โครงการ จะได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงปีนี้ จะเป็นกระบวนการสรุปแบบการก่อสร้างเลือกการใช้เทคโนโลยีว่า การใช้ของประเทศไหน และคัดเลือกผู้รับเหมา ซึ่งคาดว่า เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หนองคาย จะเริ่มก่อสร้างได้ก่อน เพราะไม่ปัญหาการเวนคืนที่ดิน ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์สุวรรณภูมิ-ระยอง จะเป็นโครงการต่อไป และต้องใช้เวลานาน เพราะติดปัญหาการเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านแหล่งชุมชนเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนการก่อสร้างรถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง กว่า 4,000 กิโลเมตรทั่วประเทศ คาดว่า จะลงนามสัญญาการก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ทุกโครงการโปร่งใส ขอให้ฝ่ายค้านเข้ามาช่วยกันทำงานแทนการจับผิด เพื่อให้โครงการต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้ และถึงแม้จะใช้เวลาชำระหนี้ถึง 50 ปี แต่คุ้มค่ากว่าการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศที่มูลค่าใกล้เคียงกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด
ทั้งนี้ การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงปีนี้ จะเป็นกระบวนการสรุปแบบการก่อสร้างเลือกการใช้เทคโนโลยีว่า การใช้ของประเทศไหน และคัดเลือกผู้รับเหมา ซึ่งคาดว่า เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หนองคาย จะเริ่มก่อสร้างได้ก่อน เพราะไม่ปัญหาการเวนคืนที่ดิน ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์สุวรรณภูมิ-ระยอง จะเป็นโครงการต่อไป และต้องใช้เวลานาน เพราะติดปัญหาการเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านแหล่งชุมชนเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนการก่อสร้างรถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง กว่า 4,000 กิโลเมตรทั่วประเทศ คาดว่า จะลงนามสัญญาการก่อสร้างได้ภายในสิ้นปีเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ทุกโครงการโปร่งใส ขอให้ฝ่ายค้านเข้ามาช่วยกันทำงานแทนการจับผิด เพื่อให้โครงการต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้ และถึงแม้จะใช้เวลาชำระหนี้ถึง 50 ปี แต่คุ้มค่ากว่าการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศที่มูลค่าใกล้เคียงกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด
