ทางการไซปรัสยังปิดบริการธนาคารต่อไปในสัปดาห์นี้จนถึงวันอังคารหน้า (26 มี.ค.) เพื่อป้องกันไม่ให้คนแห่ถอนเงินและเป็นหลักประกันให้ได้รับเงินกู้พยุงเศรษฐกิจที่ใกล้ล้มละลาย แต่การกระทำดังกล่าว ยิ่งสร้างปัญหาให้กับบริษัทต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกอยู่แล้ว โดยผู้จัดการบริษัทสินค้าแช่แข็งแห่งหนึ่งร้องเรียนว่า ไม่สามารถทำธุรกรรมที่ธนาคารในการสั่งซื้อขาย และจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารได้เลย
ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หารือกันเข้มข้นนาน 10 ชั่วโมงก่อนได้ผลสรุปเมื่อวันเสาร์ ตกลงกันว่าจะจัดสรรเงินกู้ 10,000 ล้านยูโร (390,000 ล้านบาท) ให้แก่ไซปรัส แต่มีเงื่อนไขว่าไซปรัสจะต้องหาทางระดมเงินให้ได้ 5,800 ล้านยูโร เช่น การหักภาษีผู้ถือบัญชีเงินฝากธนาคารถึงร้อยละ 6.75 และร้อยละ 9.9 ก่อให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ประชาชน จนทางการต้องปิดธนาคารมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หารือกันเข้มข้นนาน 10 ชั่วโมงก่อนได้ผลสรุปเมื่อวันเสาร์ ตกลงกันว่าจะจัดสรรเงินกู้ 10,000 ล้านยูโร (390,000 ล้านบาท) ให้แก่ไซปรัส แต่มีเงื่อนไขว่าไซปรัสจะต้องหาทางระดมเงินให้ได้ 5,800 ล้านยูโร เช่น การหักภาษีผู้ถือบัญชีเงินฝากธนาคารถึงร้อยละ 6.75 และร้อยละ 9.9 ก่อให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ประชาชน จนทางการต้องปิดธนาคารมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว