นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมนาเรื่องวิพากษ์นโยบายประชานิยมต่อเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง จากตัวแทนของภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายว่า แม้นโยบายประชานิยมของรัฐต้องการช่วยประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่หลายนโยบายไม่มีความจำเป็น และใช้งบประมาณสูงทำให้รัฐต้องหาแหล่งเงินทุนมาสนับสนุนเกินความจำเป็น โดยมีข้อเสนอให้รัฐบาล 6 ข้อคือ รัฐบาลควรจะวางกรอบที่รัฐบาลจะกู้เพื่อนโยบายประชานิยม ควรวางกรอบให้พรรคการเมืองประกาศแหล่งเงินสำหรับนโยบายประชานิยม ควรวางกรอบห้ามการรับจำนำสินค้าเกษตรเกินราคาตลาด ควรวางกรอบให้รัฐสภากำกับดูแลเรื่องรายได้ และหนี้สาธารณะของรัฐบาล ควรวางกรอบให้รัฐบาลแสดงภาระอนาคตของรัฐเป็นประจำทุกไตรมาส และควรวางกรอบการกู้เงินนอกระบบงบประมาณ
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงความกังวลว่าหนี้สาธารณะของไทยมีแนวโน้มจะเพิ่ม จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โครงการการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งนโยบายประชานิยม เช่น โครงการรับจำนำ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 66 ต่อจีดีพี ในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับร้อยละ 44 ต่อจีดีพี
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงความกังวลว่าหนี้สาธารณะของไทยมีแนวโน้มจะเพิ่ม จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โครงการการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งนโยบายประชานิยม เช่น โครงการรับจำนำ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 66 ต่อจีดีพี ในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับร้อยละ 44 ต่อจีดีพี