น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 5 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุม ว่า ความร่วมมือและประเทศในกลุ่ม ACMECS กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากการเล็งเห็นถึงศักยภาพของอนุภูมิภาคนี้ ที่จะเป็นศูนย์กลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก
ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของความร่วมมือ จะเป็นโอกาสและวิสัยทัศน์ที่จะร่วมมือกันอย่างมั่นคง เพื่อความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
สำหรับเป้าหมายของ ACMECS คือการพัฒนาเศรษฐกิจ และลดช่องว่างการพัฒนา โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่เป็นการย้ำถึงการมีอนาคตร่วมกัน และนำจุดแข็งของแต่ละประเทศเสริมความได้เปรียบร่วมกัน ซึ่งในส่วนของไทยพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน โดยสนับสนุนงบประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างครบวงจร วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท ที่มุ่งปรับปรุงระบบการขนส่งทางถนน ทางน้ำ และด่านการค้าชายแดน ที่จะเชื่อมโยงกับภูมิภาค เช่น การเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังของไทยกับท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายของพม่า ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น 45,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะต้องมีการร่วมกันพัฒนาในเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจชายแดน โดยไทยและกัมพูชาได้เริ่มหารือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกันแล้ว และหวังว่าจะได้มีการหารือกับพม่า และลาว รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ไทยจะให้ทุนการฝึกอบรมจำนวน 200 ทุน ในสาขาต่างๆ ในระยะเวลา 2 ปี และการท่องเที่ยว อาทิ โครงการ ACMECS Single Visa
ทั้งนี้ หลังการประชุมผู้นำ นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทย-ลาว ที่มีเนื้อหาระบุถึงการจัดตั้งคณะทำงานระหว่าง 2 ฝ่าย เพื่อเป็นกลไกในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นประโยชน์ของไทยที่จะขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกมิติ การเสริมสร้างการลงทุน พร้อมทั้งการแก้ปัญหาข้อติดขัดและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของความร่วมมือ จะเป็นโอกาสและวิสัยทัศน์ที่จะร่วมมือกันอย่างมั่นคง เพื่อความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
สำหรับเป้าหมายของ ACMECS คือการพัฒนาเศรษฐกิจ และลดช่องว่างการพัฒนา โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่เป็นการย้ำถึงการมีอนาคตร่วมกัน และนำจุดแข็งของแต่ละประเทศเสริมความได้เปรียบร่วมกัน ซึ่งในส่วนของไทยพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน โดยสนับสนุนงบประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างครบวงจร วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท ที่มุ่งปรับปรุงระบบการขนส่งทางถนน ทางน้ำ และด่านการค้าชายแดน ที่จะเชื่อมโยงกับภูมิภาค เช่น การเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังของไทยกับท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายของพม่า ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น 45,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะต้องมีการร่วมกันพัฒนาในเรื่องการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจชายแดน โดยไทยและกัมพูชาได้เริ่มหารือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกันแล้ว และหวังว่าจะได้มีการหารือกับพม่า และลาว รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ไทยจะให้ทุนการฝึกอบรมจำนวน 200 ทุน ในสาขาต่างๆ ในระยะเวลา 2 ปี และการท่องเที่ยว อาทิ โครงการ ACMECS Single Visa
ทั้งนี้ หลังการประชุมผู้นำ นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่องการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทย-ลาว ที่มีเนื้อหาระบุถึงการจัดตั้งคณะทำงานระหว่าง 2 ฝ่าย เพื่อเป็นกลไกในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นประโยชน์ของไทยที่จะขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกมิติ การเสริมสร้างการลงทุน พร้อมทั้งการแก้ปัญหาข้อติดขัดและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
