น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 42 คน เตรียมผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องไปหารือตกลงในรายละเอียดร่วมกันกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ขอให้ฝ่ายบริหารให้ความสำคัญกับการเมือง และการออกกฎหมายด้วยนั้น ยอมรับว่า ทั้งสองแนวทางต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่การออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของสภาฯ ที่จะดำเนินการ ซึ่งกรณีของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรม และการปรองดอง ที่ได้เคยให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษารายละเอียด ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำเนินการติดตามความคืบหน้าอยู่ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กดดันรัฐบาลเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และการสร้างความปรองดอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ทราบ และยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่เป็นคนปรับคณะรัฐมนตรี และหากปรับจะแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา จะต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์ในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ขอให้ฝ่ายบริหารให้ความสำคัญกับการเมือง และการออกกฎหมายด้วยนั้น ยอมรับว่า ทั้งสองแนวทางต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่การออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของสภาฯ ที่จะดำเนินการ ซึ่งกรณีของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรม และการปรองดอง ที่ได้เคยให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษารายละเอียด ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำเนินการติดตามความคืบหน้าอยู่ ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้กดดันรัฐบาลเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และการสร้างความปรองดอง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ทราบ และยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่เป็นคนปรับคณะรัฐมนตรี และหากปรับจะแจ้งให้ทราบ
ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา จะต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม
