พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ระบุว่า บอร์ด กสท.มีมติปรับสัดส่วนช่องรายการโทรทัศน์ดิจิตอล ดังนี้ ช่องรายการสำหรับเด็ก-เยาวชน จาก 5 ช่อง ลดเหลือ 3 ช่อง ช่องประเภทข่าวสารและสาระ จากเดิม 5 ช่อง เพิ่มเป็น 7 ช่อง ช่องรายการทั่วไป จากเดิม 10 ช่อง ลดลงเป็น 7 ช่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นช่องที่มีความชัดปกติ หรือ SD
ส่วนช่องรายการทั่วไปที่มีความคมชัดสูง หรือ HD เดิมมีเพียง 4 ช่อง เพิ่มเป็น 7 ช่อง เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น รวมถึงเป็นการดึงดูดให้คนดูทีวีดิจิตอลมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน สัดส่วนของรายการเด็กที่ลดลง มติ กสท.ให้ไปเพิ่มในช่องประเภทสาธารณะ กรณีเด็ก เยาวชน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
นอกจากนี้ กสท.มีมติเพิ่มเติมด้วย สำหรับผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม ต้องมีช่องรายการได้ไม่เกิน 1 ช่องรายการ และช่อง HD ประกอบกิจการช่องข่าวไม่ได้ เช่นเดียวกับช่องข่าวหรือสาระ ก็ประกอบกิจการช่อง HD ไม่ได้
ทั้งนี้ จากการปรับสัดส่วนทีวีดิจิตัลช่องธุรกิจ กสท.จึงมีมติให้คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ที่ศึกษามูลค่าตั้งต้นคลื่นความถี่ นำผลการศึกษาไปปรับใหม่ และเสนอกลับมาที่ กสท.ช่วงต้นเดือนเมษายน เพื่อให้ทันต่อกรอบเวลาการจัดประมูล ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงสิงหาคม-กันยายน ปีนี้
ส่วนช่องรายการทั่วไปที่มีความคมชัดสูง หรือ HD เดิมมีเพียง 4 ช่อง เพิ่มเป็น 7 ช่อง เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการที่มีคุณภาพเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น รวมถึงเป็นการดึงดูดให้คนดูทีวีดิจิตอลมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน สัดส่วนของรายการเด็กที่ลดลง มติ กสท.ให้ไปเพิ่มในช่องประเภทสาธารณะ กรณีเด็ก เยาวชน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
นอกจากนี้ กสท.มีมติเพิ่มเติมด้วย สำหรับผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม ต้องมีช่องรายการได้ไม่เกิน 1 ช่องรายการ และช่อง HD ประกอบกิจการช่องข่าวไม่ได้ เช่นเดียวกับช่องข่าวหรือสาระ ก็ประกอบกิจการช่อง HD ไม่ได้
ทั้งนี้ จากการปรับสัดส่วนทีวีดิจิตัลช่องธุรกิจ กสท.จึงมีมติให้คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้ที่ศึกษามูลค่าตั้งต้นคลื่นความถี่ นำผลการศึกษาไปปรับใหม่ และเสนอกลับมาที่ กสท.ช่วงต้นเดือนเมษายน เพื่อให้ทันต่อกรอบเวลาการจัดประมูล ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงสิงหาคม-กันยายน ปีนี้
