นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ประชาชนเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เกินหนึ่งล้านเสียง แสดงให้เห็นว่าเราได้เสียงของประชาชน กทม. เพิ่มมากขึ้นซึ่งถ้านับจากคะแนนที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้เราเพิ่มขึ้น 34% แสดงให้เห็นว่า ในส่วนที่แพ้ก็มีส่วนที่ชนะเหมือนกัน
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ของพรรคได้ประเมินไว้ว่า ถ้าจะชนะต้องได้เสียง 1 ล้านเสียงขึ้นไปแสดงว่าเราก็ทำได้เข้าเป้า เพียงแต่เราแพ้เท่านั้นเอง ซึ่งก็คงต้องทำงานหนักมากขั้นทำให้คน กทม. เข้าใจในนโยบายของพรรค ซึ่งเราก็สู้กันอย่างเต็มที่ช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถ และนี่คือสีสันของประชาธิปไตย แพ้ก็ต้องยอมแพ้ ไม่ใช่แพ้แล้วเป็นขี้แพ้ชวนตี
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ส่วน พล.ต.อ.พงศพัศ จะทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยต่อไปหรือไม่นั้น เราก็เคารพการตัดสินใจของท่านขณะนี้คงเร็วเกินไปที่จะพูดในเรื่องนี้ เราพร้อมที่จะสนับสนุน
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ของพรรคได้ประเมินไว้ว่า ถ้าจะชนะต้องได้เสียง 1 ล้านเสียงขึ้นไปแสดงว่าเราก็ทำได้เข้าเป้า เพียงแต่เราแพ้เท่านั้นเอง ซึ่งก็คงต้องทำงานหนักมากขั้นทำให้คน กทม. เข้าใจในนโยบายของพรรค ซึ่งเราก็สู้กันอย่างเต็มที่ช่วยเหลือกันอย่างสุดความสามารถ และนี่คือสีสันของประชาธิปไตย แพ้ก็ต้องยอมแพ้ ไม่ใช่แพ้แล้วเป็นขี้แพ้ชวนตี
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ส่วน พล.ต.อ.พงศพัศ จะทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยต่อไปหรือไม่นั้น เราก็เคารพการตัดสินใจของท่านขณะนี้คงเร็วเกินไปที่จะพูดในเรื่องนี้ เราพร้อมที่จะสนับสนุน